"ปัสสาวะเล็ด" ปัญหากวนใจผู้หญิงอย่างเรา

"ปัสสาวะเล็ด" ปัญหากวนใจผู้หญิงอย่างเรา

"ปัสสาวะเล็ด" ปัญหากวนใจผู้หญิงอย่างเรา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัสสาวะเล็ดเป็นปัญหาคุกคามผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และนับวันจะมีปริมาณมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากสภาพร่างกายที่ขาดการออกกำลังกาย การทำงานอยู่ในออฟฟิศขาดการเคลื่อนไหวที่เพียงพอ เรามีศึกษาถึงสาเหตุ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดและแนวทางแก้ไขปัญหา

 

อาการปัสสาวะเล็ดเป็นอย่างไร ?

การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ถือเป็นความปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ เป็นอาการที่พบบ่อยกับผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เมื่อเวลาที่สาวๆ เหล่านี้หัวเราะ ไอ หรือว่าจามแรงๆ ก็จะต้องคอยขมิบบีบไว้ไม่ให้ปัสสาวะเล็ดลอดออกมาเปื้อนเปรอะกางเกงชั้นใน อาการเหล่านี้มักจะทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายตัวและสร้างความรำคาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องเดินทางออกไปนอกสถานที่และต้องคอยหาห้องน้ำเข้าอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะอาการนี้ไม่ได้เป็นอาการอะไรที่รุนแรงหรืออาจเป็นแค่การแสดงออกของโรคชั่วคราว หากได้รับการรักษาก็สามารถกลับสู่สภาพปกติได้

 

อาการปัสสาวะเล็ดกระทบต่อชีวิตประจำวัน

ปัจจุบันมีผู้หญิงจำนวนมากถึง 20% ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อทำกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ เช่น ไอ จาม หัวเราะ หรือออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้สาวๆ มีคุณภาพชีวิตประจำวันที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งในแง่ของการทำกิจวัตรประจำวันนอกบ้าน อารมณ์ และความรู้สึกกลัวหรือกังวลว่าเวลาปวดปัสสาวะจะเข้าห้องน้ำไม่ทันและมีปัสสาวะเล็ดออกมา จึงทำให้ผู้หญิงเหล่านี้ขาดความมั่นใจและไม่กล้าออกไปพบปะผู้คนเพราะอายที่ตนมีอาการนี้อยู่

 

การกักเก็บ และการกลั้นปัสสาวะ

การกักเก็บ กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะจะคลายตัวและขยายตัวออกไปเพื่อรองรับน้ำปัสสาวะ ร่างกายของเราจะรู้สึกว่าต้องมีการขับปัสสาวะและหูรูดจะคลายตัวเพื่อขับปัสสาวะออกมา โดยส่วนใหญ่ร่างกายจะขับออกมาประมาณ 4-8 ครั้ง ในช่วงกลางวัน และอีก 1-2 ครั้งในช่วงเวลากลางคืน

การกลั้นปัสสาวะ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะตึงตัว การเกี่ยวพันกันของการทำงานของสมองก็จะส่งสัญญาณประสาทไปที่กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ หลักการสำคัญคือเมื่อร่างกายผลิตปัสสาวะออกไปและเก็บกักไว้ในกระเพาะปัสสาวะเพราะไม่ต้องการให้ปัสสาวะเล็ดออกมา กระเพราะปัสสาวะจะหดตัวและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนตัว แต่ทำให้มีแรงดันจากท่อปัสสาวะลดลง ขณะเดียวกันหูรูดของปัสสาวะจะคลายตัว เป็นสาเหตุทำให้มีปัสสาวะไหลออกมาได้

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด

การออกแรงเบ่ง ไอ จาม หัวเราะ หรือยกของหนัก และกล้ามเนื้อหูรูดของปัสสาวะไม่แข็งแรงทำให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไว บ่อย และ เร็วกว่าปกติ ปัสสาวะที่ค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะและมีเกินความจุของกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้เกิดการล้นไหลออกมาเป็นหยดตลอดเวลา

 

แนวการทางรักษา

การรักษาง่ายๆ มีดังนี้ การขับถ่ายปัสสาวะเป็นเวลาให้เป็นนิสัย กระตุ้นให้ร่างกายของเราปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง จนสามารถยืดระยะขับถ่ายได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง บริหารเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แข็งแรงขึ้น หัดเริ่มกลั้นปัสสาวะจาก 5 วินาทีก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาเป็น 15 วินาที หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดการไอเรื้อรัง เช่น การสูบบุหรี่และโรคภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะจะเป็นสาเหตุให้ร่างกายกระตุ้นปัสสาวะบ่อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook