อ่านด่วน! ลดน้ำหนักแบบนี้ ไม่พ้น “โยโย่” แน่นอน!

อ่านด่วน! ลดน้ำหนักแบบนี้ ไม่พ้น “โยโย่” แน่นอน!

อ่านด่วน! ลดน้ำหนักแบบนี้ ไม่พ้น “โยโย่” แน่นอน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวๆ หนุ่มๆ หลายคนถือโอกาสช่วงกินเจแบบนี้ดูแลรูปร่าง และลดน้ำหนักไปด้วยในตัว เพราะเป็นช่วงที่หากับข้าวกับปลาคลีนๆ ผักๆ ได้เยอะแยะมากมาย แต่นอกจากจะต้องเลี่ยง อาหารเจบางอย่างที่เสี่ยงต่อโรคไตวาย และความดันเลือดสูงแล้ว (คลิกอ่านที่นี่) ยังต้องออกกำลังกายอย่างถูกวิธีอีกด้วย


ในโลกออนไลน์มีการแชร์บทความและข่าวการลดน้ำหนักกันมาเรื่อยๆ ทั้งลงไป 30-40 กิโลกรัม หรืออาจจะเป็นหัวข้อว่า วิธีลดน้ำหนัก 10 กิโล ภายใน 1 เดือน เป็นต้น มีทั้งคนชื่นชม และคนออกมาคัดค้านว่า ระวัง “โยโย่”
โยโย่ เป็นยังไง อะไรคือสาเหตุของการโยโย่ Sanook! Health จะอธิบายให้ฟังง่ายๆ ค่ะ

Yoyo effect

โยโย่เอฟเฟ็กต์ หรือที่คนไทยเรียกว่า โยโย่ มันมาจากแรงเหวี่ยงของลูกดิ่ง (yoyo) ที่เมื่อยิ่งเขวี้ยงแรงไปเท่าไร ก็จะเด้งกลับมาแรงเท่านั้น ใช้เปรียบเทียบการลดน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่สุดท้ายน้ำหนักเด้งขึ้นกลับไปมากกว่าก่อนหน้าที่จะเริ่มลดเสียอีก ซึ่งเป็นผลมาจากการลดน้ำหนักผิดวิธีนั่นเอง

ทำไมถึงเกิดโยโย่?

ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือสมมติว่า

ก่อนลด - เราเคยใช้พลังงานต่อวัน 1,500 kcal เรากินวันละ 1,800 kcal (เช่น ข้าวกะเพราหมูไข่ดาว 3 มื้อรวด)แปลว่าเรากินมากเกินไป 300 kcal สะสมทุกวัน เราเลยอ้วน

ช่วงกำลังลด - ลดอาหารลงเหลือวันละ 800 kcal (เช่น ไข่ 1 ฟอง นมจืดเกาเหลา 1 ชาม เย็นผลไม้) แบบหักคอสุดๆ ร่างกายใช้พลังงานวันละ 1,500 kcal ติดลบไป -700 kcal ร่างกายเลยดึงพลังงานสะสมมาใช้ให้เพียงพอในแต่ละวัน ทำไปเรื่อยๆ น้ำหนักลงฮวบฮาบ ในเวลาอันรวดเร็ว และร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานเหลือ 800 kcal ต่อวัน

หลังลด – เมื่อได้น้ำหนักที่พอใจแล้ว เราก็เลิกลดอาหาร กลับมากินเท่าเดิม หรืออาจจะน้อยกว่าเดิมนิดนึง แต่ไม่โหดเหมือนเดิม อาจจะ 1,200 kcal แม้จะกินน้อยแล้ว แต่ร่างกายที่ผ่านช่วงเวลาอดอยากมา จะเข้าใจว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ควรรีบสะสมไขมันเอาไว้ หลังจากที่ถูกดึงไปใช้จนร่อยหลอ และร่างกายเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานแค่ 800 kcal ต่อวันแล้ว ดังนั้นจากที่กิน 1,200 kcal ควรจะผอม หรือน้ำหนักเท่าเดิม กลายเป็นกินเกินไป +400 kcal อีกต่างหาก เกินหนักกว่าตอนก่อนลดอีก

ดังนั้นสุดท้ายแล้ว น้ำหนักก็เลยขึ้นมามากกว่าเดิม ระบบเผาผลาญในร่างกายรวนเพราะปรับตัวไม่ทันนั่นเอง



ลดน้ำหนักแบบนี้ “โยโย่” ถามหาแน่นอน

อดอาหาร อดมื้อกินมื้อ แบบหักดิบมากเกินไป ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ....วิธีนี้คุ้นๆ ไหม ก็พวกสูตร 10 กิโล 1 เดือน หรือ 5 กิโล 1 อาทิตย์นั่นแหละ เข้าข่ายพวกนี้ทั้งหมดเลย ยิ่งใครที่บวกการออกกำลังกายหนักๆ เข้าไปด้วย ยิ่งแย่ใหญ่ พลังงานที่ทานเข้าไปมันไม่พอน่ะสิ

ลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้โยโย่?

1. ควบคุมอาหาร เป็นวิธีที่ถูกต้อง อาหารไขมันสูงก็เลี่ยงซะ แต่ต้องทานให้ครบทุกมื้อ ห้ามขาดมื้อใดมื้อหนึ่งเด็ดขาด

2. อย่าหักโหม ลดอาหารที่ทานมากเกินไป ควรทานให้อยู่ในราวๆ 1,000-1,200 kcal ต่อวัน หรือหากนับแคลอรี่ไม่ถนัด ก็ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันสูงแทนได้

3. ออกกำลังกายเบาๆ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี และควรออกกำลังกายเรื่อยๆ เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ คุ้นชิน และช่วยกระชับสัดส่วน ไม่ให้ย่อนคล้อยหลังน้ำหนักลดอีกด้วย


ง่ายๆ เท่านี้ ทุกคนก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่างกายสมส่วน เพอร์เฟ็ค และไม่ต้องกลัวโยโย่กลับไปกลับมาอีกแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook