โรคกระดูกพรุน หมายถึง โรคที่ความแข็งแรงของกระดูกลดลง จนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก โดยเหตุที่อุบัติเหตุเล็กน้อยก็อาจจะทำให้กระดูกหักได้ ความสำคัญกับอันตรายของโรคนี้ ถ้าเป็นปกติโดยทั่วไปเดินหกล้มบนพื้นราบธรรมดา เราไม่เป็นอะไร อย่างมากเราอาจจะข้อเท้าพลิก เจ็บมือนิดหน่อย เอามือยันพื้นได้ แต่กลุ่มคนที่เป็นโรคกระดูกพรุน เราลื่นล้มบนพื้นราบ ก็อาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้ มือยันพื้น ข้อมือหัก สะโพกกระแทกพื้นสะโพกหัก นี่คือความอันตรายของโรคกระดูกพรุน
อ.นพ.กุลพัชร จุลสำลี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เผยถึงสาเหตุของโรคกระดูกพรุน ในรายการพบหมอรามาฯทางสถานี RAMA CHANNE ว่า ปกติกระดูกของเราจะมีการสร้างและการทำลายกระดูกอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงอายุก่อน 30-35 ปีเราจะมีการสร้างและการทำลายกระดูก ที่มีการสร้างมากกว่าการทำลาย เพราะฉะนั้นกระดูกจะค่อยๆ แข็งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากอายุ 30-35 ปี ช่วงประมาณ 5-10 ปี มวลกระดูกจะคงที่คือมีการสร้างและการทำลายที่สมดุลกัน หลังจากผ่านระยะนั้นไปคือประมาณอายุ 40 ปีเป็นต้นไป การทำลายกระดูกจะเริ่มมากกว่าการสร้าง เพราะฉะนั้น โดยธรรมชาติของเรากระดูกจะค่อยๆ บางลงเรื่อยๆ จากการทำลายกระดูกที่เยอะกว่าการสร้างกระดูก เพราะฉะนั้น ยิ่งเราแก่ตัวไป กระดูกเราจะค่อยๆ บางไปตามธรรมชาติระดับของกระดูกพรุนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเราสะสมมวลกระดูกตั้งแต่ช่วงอายุแรกเกิดจนถึง 30 ปี ไว้มากน้อยแค่ไหน
ปัจจัยที่ทำให้เราเป็นกระดูกพรุนก่อนวัยอันควร มีทั้งโรคประจำตัวต่างๆ และลักษณะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม
ส่วนลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นกระดูกพรุน ได้แก่
พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้มีความเสี่ยงเป็นกระดูกพรุนมากกว่าคนทั่วไป
สำหรับอาการโรคนี้จะไม่มีอาการอะไรให้เราเห็นเลย เขาจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อกระดูกเราหักไปแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว การตระหนักถึงโรคนี้ การรู้ถึงความเสี่ยง การย้อนกลับไปมองตัวเองว่าเรามีความเสี่ยงหรือเปล่า จากนั้นเราถึงจะไปพิจารณาพบแพทย์ เพื่อที่จะตรวจมวลกระดูก หรือคำนวณความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหัก
ปัจจุบันการวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนมี 2 แบบหลักๆ ได้แก่ การตรวจมวลกระดูก เราไปพบแพทย์ แพทย์จะส่งให้เราไปเข้าเครื่องตรวจมวลกระดูก เราจะได้รับรังสีเพียงเล็กน้อย จากนั้นจะตรวจมวลกระดูกออกมา แล้วคำนวณตามค่าเฉลี่ยของประชากร ถ้ามวลกระดูกของเราอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยของประชากรถึงระดับหนึ่ง เราก็จะสามารถวินิจฉัยเป็นโรคกระดูกพรุนได้ และวิธีการคำนวณความเสี่ยงในการที่จะเกิดกระดูกหัก แพทย์จะถามประวัติคร่าวๆ แล้วจะคำนวณออกมา ความเสี่ยงนี้ชื่อว่า การคำนวณ frax score จะดูจากเพศ อายุ ดัชนีมวลกาย พฤติกรรมการสูบบุหรี่และ
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โรคประจำตัว การกินยาสเตียรอยด์รวมถึงประวัติครอบครัวที่มีประวัติเป็นกระดูกพรุนความเสี่ยง frax score จะคำนวณออกมาได้ 2 แบบ คือ คำนวณเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหัก โดยทั่วไปในระยะ 10 ปี กับกระดูกหักบริเวณสะโพกในระยะ 10 ปี ถ้าค่าความเสี่ยง frax score ของกระดูกหักทั่วไปมากกว่า 20% ในระยะ 10 ปี หรือค่าความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกสะโพกหักมากกว่า 3% ในระยะ 10 ปี ก็จะต้องได้รับการวินิจฉัยเป็นกระดูกพรุน และต้องได้รับการรักษา
ในส่วนการรักษา และการดูแลตัวเอง คุณหมอแนะว่าโรคกระดูกพรุนเป็นโรค เราต้องรักษา การรักษาก็จะเป็นการรักษาด้วยยา เพราะฉะนั้น การกินยา หรือบางท่านจะเลือกใช้วิธีฉีดยารักษาโรคกระดูกพรุน เราก็ควรจะไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอและกินยาอย่างสม่ำเสมอ
กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุนจะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น อายุเยอะ บางคนมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อมบ้าง ข้อสะโพกมีปัญหา หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท บางคนมีเรื่องโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอดโรคไตต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นข้อจำกัดในการออกกำลังกายทั้งสิ้น แนะนำว่า อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลในเรื่องของข้อจำกัดในการออกกำลังกายของเราว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่โดยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุนการออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มมวลกระดูกได้
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :อ.นพ.กุลพัชร จุลสำลี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
ภาพ :iStock