5 เคล็ดลับสยบปัญหานอนกรน ง่ายจนไม่อยากเชื่อ

5 เคล็ดลับสยบปัญหานอนกรน ง่ายจนไม่อยากเชื่อ

5 เคล็ดลับสยบปัญหานอนกรน ง่ายจนไม่อยากเชื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครนอนกรนบ้างยกมือขึ้น! ถึงแม้คุณอาจจะไม่ได้เป็นคนนอนกรน แต่คงจะเคยลำบาก ทนทรมานกับการนอนไม่หลับในตอนกลางคืนเพราะคนข้างตัวนอนกรนเสียงดังสนั่นเหมือนเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กันมาบ้าง จริงๆ แล้วอาการนอนกรนไม่ใช่เพียงนิสัยเสียๆ หรือเป็นเรื่องตลก เพราะอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว ถึงกระนั้นการผ่าตัดรักษาอาจจะเป็นวิธีที่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น Sanook! Health จึงขอแนะนำ 5 เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยลดปัญหาการนอนกรนมาฝากกันค่ะ รับรองว่าง่ายจริง ได้ผลจริงถึง 99% และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินมากเลยด้วย

การนอนกรน เกิดจากอะไร?

เสียงจากการนอนกรน เกิดจากการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อรอบๆ ช่องทางเดินหายใจที่แคบผิดปกติเวลาหายใจ อาจจะเกิดขึ้นจากความผิดปกติของสรีระของเราอยู่แล้ว หรืออาจจะเพราะไขมันในตัวที่มากเกินไป ทำให้ผนังคอหนาขึ้น ทำให้ช่องทางเดินหายใจแคบลง

5 เคล็ดลับสยบปัญหานอนกรน

1. ออกกำลังกายลำคอ

อาจฟังดูประหลาด แต่ได้ผลจริง และวิธีออกกำลังกายก็ง่ายมากๆ มีตั้งแต่แปรงฟันไป ออกกำลังกายลำคอไป ยกลิ้นซ้ายขวา ม้วนลิ้นเล็กน้อยแล้วยกค้างไว้ เอาลิ้นดันเพดานปาก ขยับลิ้นไก่ ฯลฯ



2. จิบน้ำมันมะกอก

จิบน้ำมันมะกอกวันละ 4-5 หยุดก่อนนอนทุกวัน และออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักไปด้วย เพราะน้ำมันมะกอกเป็นกรดไขมันที่ดี จึงทำให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย ช่วยให้เสียงกรนเบาลง และหากทำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยลดอาการกรนอย่างถาวรได้



3. ทานหอมแดง

นอกจากหอมแดงจะช่วยแก้หวัด คัดจมูก ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดแล้ว หอมแดงยังช่วยให้ลำคอชุ่มชื้น ส่งผลให้ระบบหายใจทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการนอนกรนได้



4. ทานพริก

ไม่ว่าจะเป็นพริกชนิดใดก็ตาม ขอให้เป็นพริกที่มีรสเผ็ด เพราะรสเผ็ดจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง และลำคอชุ่มชื้น ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อรอบหลอดลม จึงช่วยลดอาการกรนได้นั่นเอง



5. ทานขิง

นำเหง้าขิงมาทุบให้แตก ต้มกับน้ำแล้วดื่ม ช่วยทำให้ลำคอชุ่มชื้น ระบบหายใจทำงานได้สะดวกขึ้น ช่วยลดอาการนอนกรนวันละเล็กวันละน้อยได้อย่างแน่นอน

 

เห็นไหมคะว่าปัญหานอนกรน ถึงแม้จะเป็นปัญหาระดับชาติของใครหลายคน แต่ก็แก้ไขได้ไม่ยาก แต่หากทำตามเคล็ดลับทุกอย่างแล้วยังไม่หาย และพบว่าเป็นปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไขอย่างด่วน แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook