"ฉลากโภชนาการ" อ่านให้เป็น ยิ่ง "ลดน้ำหนัก" ง่าย

"ฉลากโภชนาการ" อ่านให้เป็น ยิ่ง "ลดน้ำหนัก" ง่าย

"ฉลากโภชนาการ" อ่านให้เป็น ยิ่ง "ลดน้ำหนัก" ง่าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาว ๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่า การอ่านฉลากอาหารช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ก็เรารู้ว่าเราจะทานอะไรเข้าไปนี่นะ แต่บางครั้งเวลาจะอ่านก็มึนเหลือเกิน เดี๋ยวนี้เค้ามีการคิดค้น ฉลากโภชนาการ แบบจีดีเอ (Guideline Daily Amount) เป็นฉลากโภชนาการหวาน มัน เค็ม ช่วยให้สาว ๆ อ่านฉลากอาหารได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องยืนหน้ามึนอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว


ฉลากโภชนาการ คืออะไร
?

ฉลากโภชนากา ร คือ ตัวช่วยให้เราดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งจะแปะอยู่ข้างกล่อง ข้างซองของกินทุกอย่าง ที่โฆษณาว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเป็นของที่โลว์แคลอรี่ เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าที่บอกว่าโลว์น่ะ โลว์จริงมั้ย แล้วพอโลว์แล้ว “เหลือ” เท่าไหร่ มีคุณค่าสารอาหารอะไรบ้าง บางทีเขียนตัวใหญ่ ๆ ว่ามีสารนู่นนี่มากมาย เอาเข้าจริงอาจมีสารที่ว่าแค่ 0.001% เองก็ได้

ซึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เราเห็นนี่ก็มาจากการคำนวณว่าปริมาณสารที่เราได้รับจากการกินของชิ้นนั้นเข้าไป คิดเป็นเท่าไหร่จากที่เราควรได้รับต่อวัน ดังนั้น เฮลท์ตี้เกิร์ลทั้งหลายถ้าไม่อยากถูกหลอกง่าย ๆ ก็ต้องรักการอ่านกันหน่อยนะจ๊ะ


ยิ่งป่วยยิ่งต้องอ่านให้เป็น

เคยได้ยินมั้ยคะที่เขาว่าอาหารรักษาโรค แต่อาหารก็ทำให้เกิดโรคได้เหมือนกัน เน้นย้ำว่าฉลากโภชนาการ คือผู้ช่วยคนสำคัญที่ห้ามมองข้าม โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ควรรู้ว่าตัวเองต้องเลี่ยงอะไร เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวานควรเน้นดูที่ปริมาณน้ำตาล

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรเน้นดูที่ปริมาณเกลือ และโซเดียม เพราะของกินอาจทำให้อาการหนักขึ้นก็ได้ ส่วนคนที่แข็งแรงดี จะพิจารณาเฉพาะปริมาณ และจำนวนพลังงานที่ได้รับต่อการบริโภคอาหารนั้นหนึ่งหน่วยบริโภคก็เพียงพอแล้ว เพื่อป้องกันการได้รับปริมาณพลังงานมากเกิน จนอ้วนโดยไม่ได้ตั้งใจ


วิธีอ่านฉลากอาหาร

พุ่งสายตาไปที่จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่องหรือต่อซอง ถ้าเป็น 1 แสดงว่าเลขที่เห็นข้างล่างไม่ต้องบวกลบคูณหาร แต่ระวังบางครั้งเขาอาจลักไก่เขียนเป็น 1/2 ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณกินหมดกล่อง คุณจะได้ทุกอย่าง 2 เท่า ของที่คุณอ่าน!

สิ่งต่อมาก็ดูว่าที่กำลังจะกินกี่ “กิโลแคลอรี” แล้วอย่าลืมนึกถึงความเหนื่อยยากในการเบิร์นก่อนกิน นะจ๊ะ

เล็งให้รายการต่อไปนี้ต่ำเข้าไว้ : ไขมันทั้งหมด ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และโซเดียม

ถ้าเส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สูงจะดีมาก

ตัวอันตรายอย่างไขมันทรานส์ หรือ Trans Fat จะต้องเป็น 0 เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook