5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการบริจาคเลือด

ผู้ป่วยหลายรายในประเทศของเรายังต้องการเลือดสำรอง เพื่อใช้ต่อชีวิตของพวกเขาอยู่ หากคุณมีจิตใจดี มีความเมตตาพอที่จะยอมเสียสละเลือดของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือชีวิตของคนอื่นถือว่าเป็นเรื่องดีที่น่าสรรเสริญ หากแต่ความเข้าใจผิดบางประการอาจทำให้คุณเสียโอกาสในการได้ช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่น และเสียเวลาในการเดินทางด้วย

Sanook! Health เลยขอนำเสนอความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการบริจาคเลือด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องกันค่ะ

1. ก่อนบริจาคเลือด ห้ามทานอาหาร

จริงๆ แล้ว คุณสามารถทานอาหารได้ ดื่มน้ำได้ตามปกติ ไม่ต้องอดข้าวอดน้ำมาก่อนบริจาคเลือด แต่ควรเลือกทานอาหารที่ไม่มีไขมันสูงเกินไป เช่น ข้าวขาหมู ข้ามมันไก่ แกงที่ใส่กะทิต่างๆ เพราะทำให้สีของพลาสมาผิดปกติเป็นสีขาวขุ่น ซึ่งจะนำไปใช้ไม่ได้ นอกจากนี้ต้องงดแอลกอฮอล์ และบุหรี่ด้วย

2. สามารถบริจาคเลือดได้เลย โดยไม่ต้องมีการเตรียมตัว

หากคุณเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง ทานอาหารตรงเวลา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยก็นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เลือดของคุณก็คงไม่มีปัญหา เดินห้างอยู่เจอจุดรับบริจาคเลือดก็เดินตรงเข้าไปได้เลย แต่โดยส่วนใหญ่วัยทำงานมักนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ คือน้อยกว่า 6 ชั่วโมง และอาจมีโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกล็ดเลือดต่ำ จึงทำให้บริจาคเลือดไม่ได้

3. เข้ามาบริจาคเลือดเวลาไหนก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นกรณีเร่งด่วนขนาดไหน อย่างไรก็ต้องเข้ามาบริจาคเลือดตามระยะเวลาทำการของโรงพยาบาล หรือศูนย์รับบริจาคเลือดนั้นๆ นั่นคือราว 7.30 น. หรือ 8.00 น. ไปจนถึง 15.30 น. 16.30 น. หรือ 19.30 น. เฉพาะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เพราะกระบวนการปั่นแยกเลือด ตรวจสอบคุณภาพ และจัดเก็บเลือดนั้นใช้เวลาและทรัพยากรมาก และต้องทำในช่วงเวลาที่จำกัด ดังนั้นไปตอนที่เขาเปิดทำการพร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งทีมดีกว่า

4. หลังบริจาคเลือด ไม่ต้องทานยาบำรุงเลือดที่โรงพยาบาลให้มาก็ได้

เมื่อคุณแบ่งปันเลือดจำนวนหนึ่งออกไปจากร่างกาย ถึงแม้ร่างกายจะสามารถผลิตเลือดขึ้นมาใหม่ได้ แต่คุณก็ยังต้องบำรุงเลือดให้มากขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี ดังนั้นคุณควรทานยาบำรุงเลือดที่ได้มาให้หมดทั้งถุง เพื่อให้เลือดมีความเข้มข้นพร้อมใช้งานในการบริจาคเลือดครั้งต่อไป และเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองด้วย

5. การไปบริจาคเลือด ถือว่าเป็นการตรวจเลือดหาเชื้อโรคได้อีกวิธีหนึ่ง

ถึงแม้ว่าตอนตรวจเลือดทีมแพทย์จะทำงานอย่างหนักเพื่อตรวจทั้งกรุ๊ปเลือด เกร็ดเลือด ความเข้มข้นนู่นนี่ แต่ก็ยังมีบางเชื้อโรคที่จะยังหาไม่พบจากขั้นตอนการตรวจเลือดก่อนบริจาคเลือด เช่น เชื้อเอชไอวี จะยังตรวจไม่เจอภายใน 11 วัน (โดยเฉลี่ย) ดังนั้นหากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ ก่อนมาบริจาคเลือด อยากให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน หรือตอนกรอกแบบฟอร์มก่อนบริจาคเลือด ควรกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง อย่าบิดเบือนข้อมูลเด็ดขาด เพื่อช่วยให้ทีมแพทย์ช่วยวินิจฉัยความเสี่ยงต่างๆ ของเลือดของคุณด้วย

ครั้งหน้าก่อนบริจาคเลือด เตรียมร่างกายให้พร้อม จะได้ช่วยผู้ป่วยที่เดือดร้อนจริงๆ ถือว่าเป็นการทำบุญกับเพื่อนร่วมโลกอย่างแท้จริงค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก เฟซบุ๊คเพจ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน 
ภาพประกอบจาก istockphoto