สวม "หน้ากากอนามัย" ช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยจริงหรือไม่ ?

สวม "หน้ากากอนามัย" ช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยจริงหรือไม่ ?

สวม "หน้ากากอนามัย" ช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยจริงหรือไม่ ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้ข่าวไวรัสโคโรนากำลังเป็นที่ติดตามจากทั่วโลก อันที่จริงเราก็ยังไม่รู้จักเชื้อไวรัส 2019-nCov ตัวนี้ดีพอ รู้แต่ว่ามันเริ่มเกิดมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ปัจจุบันมีหลักฐานมากพอที่บ่องบอกว่าตอนนี้ไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้แล้ว แต่ที่ยังไม่ชัดเจนคือเราไม่รู้ว่าการสัมผัสผู้ป่วยแบบไหนถึงจะทำให้ติดเชื้อ แล้วการใส่หน้ากากอนามัยนั้นช่วยได้แค่ไหน

หน้ากากช่วยได้ระดับนึง

ไวรัสพวกนี้สามารถแพร่กระจายได้ 2 วิธี เมื่อคนที่ป่วยไอหรือจาม มันก็จะแพร่เชื่อโรคเข้าไปสู่ในอากาศด้วย นอกจากนี้หากเขาไปสัมผัสผู้อื่นหลังจากเขาขยี้ตาหรือแคะจมูกก็สามารถทำให้เชื้อติดต่อได้ ดังนั้นไม่ว่าจะทางอากาศหรือทางร่างกายก็ส่งผลให้ติดเชื้อได้เหมือนกัน

มีหลักฐานงานวิจัยที่บอกว่าถ้าใช้หน้ากากอนามัยถูกวิธีสามารถช่วยชะลอการแพร่กระจายของไวรัสในอากาศได้ ตัวอย่างงานศึกษาในปี 2008 บอกไว้ว่าการใส่หน้ากากช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อได้ 80% อีกชิ้นหนึ่งในปี 2009 รายงานว่า หากล้างมือบ่อยๆ แล้วสวมใส่หน้ากากสามารถช่วยป้องกันได้ 70%

แต่ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า เชื้อไวรัสไม่ได้แพร่กระจายแค่ในอากาศ ยังติดต่อทางการสัมผัสด้วย ดังนั้นการใส่หน้ากากจึงช่วยได้แค่ในระดับนึง

หน้ากากอนามัยมีหลายชนิด

มีหน้ากาก 2 ชนิดที่จะช่วยป้องกันคุณจากไวรัสโคโรนา คือหน้ากากอนามัยแบบปกติ และหน้ากากอนามัยแบบ N95 แบบแรกคือที่เราเห็นหมอ พยาบาล ทันตแพทย์ใส่ตอนรักษาคนไข้ มันก็ช่วยป้องกันละอองต่างๆ ได้ แต่ด้วยความที่มันบางและหลวมจึงมีโอกาสที่เชื้อโรคต่างๆ จะเล็ดลอดเข้าไปได้

อีกอันหนึ่งคือ N95 ที่ส่วนมากคนที่ทำงานในไซต์ก่อสร้างมักจะใส่กัน มันสามารถกรองไวรัส แบคทีเรีย ได้มากกว่าถึง 95% แต่ปัญหาคือมันทำให้หายใจค่อนข้างลำบาก หญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน เพราะมีผลต่อการหายใจ

แต่สถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้คือถ้ามีหน้ากากแบบไหนก็ใส่ไปก่อน ถึงแม้จะกันได้ไม่ 100% แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงได้ แล้วอย่าลืมล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ แล้วก็หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook