ถูกหรือไม่? ใช้ช้อนงัดปากผู้ป่วยลมชัก ลมบ้าหมู ป้องกันกัดลิ้น

ถูกหรือไม่? ใช้ช้อนงัดปากผู้ป่วยลมชัก ลมบ้าหมู ป้องกันกัดลิ้น

ถูกหรือไม่? ใช้ช้อนงัดปากผู้ป่วยลมชัก ลมบ้าหมู ป้องกันกัดลิ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากชมซีรี่ยส์ Hormones Season 3 ที่มีตัวละคร "ออย" แสร้งทำเป็นมีอาการเหมือนผู้ป่วยโรคลมชัก เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยิน หรืออาจจะเคยเห็นว่าหากพบผู้ป่วยโรคชัก หรือลมบ้าหมู ระหว่างผู้ป่วยกำลังชัก ให้รีบนำช้อนใส่เข้าไปในปาก งัดปากเอาไว้ กั้นระหว่างฟันกับลิ้น ไม่ให้ผู้ป่วยเผลอกัดลิ้นตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะเสียชีวิตจากการกัดลิ้น แต่จริงๆ แล้ววิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ใช่ วิธีช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมชัก ลมบ้าหมูที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร Sanook! Health หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ


โรคลมชัก เกิดจากอะไร?


โรคลมชักเกิดขึ้นจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้า ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม พยาธิในสมอง เส้นเลือดในสมองผิดปกติ สมองพิการแต่กำเนิด เป็นต้น โดยผู้ป่วยร้อนละ 70 ไม่สามารถหาสาเหตุของอาการลมชักได้

 

อาการของโรคลมชัก

1. ชักกระตุก เกร็งไปทั้งตัว อาจจะเหมือนมีอาการหมดสติ แล้วร่างกายจะค่อยๆ เกร็ง ตาเหลือก ชักกระตุก กัดฟัน และอาจจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ

2. มีอาการชักบางส่วน เช่น ใบหน้า แขน ขา หรืออาจไม่ปรากฏอาการชักกระตุก เหมือนเหม่อลอย หรือหมดสติไปชั่วคราว เมื่อฟื้นจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

วิธีช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมชัก ลมบ้าหมู ที่หลายๆ คนเข้าใจกันว่า ให้หาช้อนงัดปาก กั้นระหว่างฟันกับลิ้นเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเผลอกัดลิ้นตัวเองนั้น แท้ที่จริงแล้ว เป็นวิธีปฐมพยาบาลที่ไม่ถูกต้อง เพราะอาจส่งผลเสียต่อฟัน ทำให้ฟันได้รับความเสียหาย บิ่น โยก หรือหลุด และหากฟันหลุดร่วงลงไปในคอ อาจเกิดอาการสำลัก หรืออาจปิดกั้นหลอดลมจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตได้


ดังนั้น วิธีช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมชัก หรือลมบ้าหมูเบื้องต้นที่ดีที่สุด มี 2 วิธีคือ

1. หากสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยชักเกร็ง แต่ไม่มีอาการกัดลิ้นร่วมด้วย ควรให้ผู้ป่วยนอนตะแคงหน้าด้านใดด้านหนึ่ง ป้องกันอาการสำลัก

2. ปลดกระดุมคอ เข็มขัด กระดุมกางเกงคลายความแน่นอึดอัดให้กับร่างกายผู้ป่วย

3. หากพบผู้ป่วยมีอาการกัดฟันรุนแรง เสี่ยงต่อการกัดลิ้นตัวเอง ให้ใช้ผ้านุ่มสะอาดสอดเข้าไปในปากของผู้ป่วยแทน

4. ผู้ป่วยจะหยุดชักเองภายใน 3-5 นาที แต่หากมีอาการชักนานกว่านั้น หรือชักจนหมดสติ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล


ถึงจะไม่ใช่โรคใหม่ที่ร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต แต่หากให้การช่วยเหลือที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น และอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นควรให้การช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยวิธีที่ถูกต้อง และรวดเร็ว มีสติกันนะคะ



ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก thaihealth.or.th 
ภาพประกอบจาก ซีรี่ยส์ Hormones Season 3

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook