5 อาการเด่น “โรคจิตเภท”

5 อาการเด่น “โรคจิตเภท”

5 อาการเด่น “โรคจิตเภท”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผย 5 อาการเด่นโรคจิตเภท หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ โรคนี้รุนแรงเท่าป่วยอัมพาตทั้งตัวหากไม่รักษา

โรคจิตเภท คืออะไร?

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคจิตเภท (Schizophrenia) ว่า โรคนี้เป็นการเจ็บป่วยทางจิตที่รุนแรง พบได้มากที่สุดประมาณร้อยละ70 ของกลุ่มผู้ป่วยโรคจิตทั้งหมด พบได้ทั่วโลกทั้งหญิงและชาย มักมีอาการเรื้อรัง สาเหตุเกิดจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ มีผลให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติทั้งความคิด การรับรู้ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีอารมณ์และพฤติกรรมผิดแผกไปจากคนทั่วไป ตลอดช่วงชีวิตประชาชนจะพบอัตราป่วยโรคนี้ได้ประมาณร้อยละ 1 แม้ว่าจะเกิดไม่มาก แต่เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพประชากรรุนแรง คือทำให้ผู้ป่วยไร้ความสามารถในการดำเนินชีวิต โดยมักจะเริ่มมีอาการป่วยในช่วงอายุ 15-35 ปี

อาการเฉพาะที่โดดเด่นของโรคจิตเภทมักพบได้บ่อยมี 5 อาการ

  1. หลงผิด เช่นผู้ป่วยคิดว่าตนเองมีอำนาจลึกลับ ส่งกระแสจิตได้ หรือเป็นผู้วิเศษ
  2. ประสาทหลอนคือมีการรับรู้ที่ผิดปกติ ที่พบบ่อยคือหูแว่ว เช่นได้ยินเสียงใบไม้ไหวเป็นเสียงเพลง ได้ยินเสียงคนนินทาทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ บางคนมองเห็นผิดเพี้ยนไป เช่น เห็นเชือกเป็นงู บางคนอาจได้กลิ่นผิดปกติ บางคนรู้สึกว่ามีแมลงไต่ตามตัว เป็นต้น
  3. พูดจาไม่สัมพันธ์หรือไม่ปะติดปะต่อกัน พูดหลายเรื่องมารวมกัน
  4. มีพฤติกรรมถดถอย เช่น แสยะยิ้ม แต่งตัวแปลกประหลาด แยกตัวเองออกจากสังคม หรืออยู่ในท่าทางแปลกๆ ทำอะไรเป็นพิธีกรรมไปหมด เป็นต้น
  5. อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น สีหน้าทื่อๆ ไม่แสดงอารมณ์ เฉยเมย บางคนแสดงอารมณ์ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์

หากพบคนในครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด มีอาการที่กล่าวมาอย่างน้อย 2 ข้อ ปรากฏมานาน 1 เดือนขึ้นไป ขอให้สงสัยว่าอาจป่วยเป็นโรคจิตเภท ขอให้รีบพาไปรับการรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว สามารถใช้สิทธิการรักษาได้เช่นเดียวกับโรคทางกาย หัวใจหลักของการรักษาคือการใช้ยาเพื่อทุเลาอาการทางจิต ควบคู่กับการฟื้นฟูทางจิตใจและสังคมตามสภาพปัญหาผู้ป่วยแต่ละราย โรคนี้ยิ่งถึงมือแพทย์เร็วเท่าใด ยิ่งเป็นผลดี ผู้ป่วยจะมีโอกาสหายขาดหรือทุเลา สามารถใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป

อันตรายของโรคจิตเภท หากปล่อยไว้ไม่รักษา

หากเป็นโรคจิตเภทแล้วไม่รักษาหรือรักษาอย่างไม่ถูกทาง จะทำให้อาการทางจิตยิ่งทรุดลงและเรื้อรัง เพิ่มความเสี่ยงอันตรายทำร้ายตัวเองหรือสิ่งของหรือคนรอบข้าง ผู้ป่วยจะสูญเสียศักยภาพความสามารถในการดำเนินชีวิต ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้เปรียบเทียบความรุนแรงว่า เท่ากับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตทั้งตัวคือร่างกายอ่อนแรงขยับตัวไม่ได้เลย และยังอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้า นำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ รวมทั้งอาจกลายเป็นคนติดเหล้าหรือสารเสพติดจากการที่ผู้ป่วยพึ่งพิงใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อลดอาการหลอนทางประสาทของตัวเอง ยิ่งเกิดความซับซ้อน ยุ่งยากขึ้นไปอีก

การดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภท

  1. ครอบครัวและญาติต้องดูแลให้ผู้ป่วยกินยาให้ต่อเนื่องครบสูตรตามที่แพทย์สั่งอย่างน้อย 6 เดือนหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอาการ และระยะเวลาของการป่วย ต้องไม่ปรับลดหรือเพิ่มยาเอง
  2. พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
  3. ดูแลไม่ให้ผู้ป่วยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมทุกชนิด
  4. งดสูบบุหรี่ และสารเสพติดทุกชนิดซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้อาการกำเริบ ป่วยซ้ำอีก ยิ่งป่วยซ้ำถี่เท่าใด ยิ่งทำให้สมรรถภาพเสื่อมถอยลง
  5. ดูแลจิตใจ อารมณ์ คุณค่าความรู้สึกของผู้ป่วยด้วย โดยพูดคุยให้กำลังใจ ให้ผู้ป่วยทำงานตามศักยภาพเพื่อสร้างความรู้สึกว่ามีคุณค่าในครอบครัว
  6. ควรระวังไม่พูดประชดประชัน เจ้ากี้เจ้าการเกินความจำเป็น หรือพูดตำหนิติเตียน เปรียบเทียบผู้ป่วยกับคนอื่น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิดอารมณ์โกรธหรือเสียใจ หรือรู้สึกไร้คุณค่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook