9 สัญญาณอันตราย มะเร็งลำไส้ใหญ่

9 สัญญาณอันตราย มะเร็งลำไส้ใหญ่

9 สัญญาณอันตราย มะเร็งลำไส้ใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งประเภทหนึ่งที่พบในคนไทยบ่อยติดอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับมะเร็งประเภทอื่นๆ จากสถิติปี 2558 พบว่าโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถูกตรวจพบในเพศหญิงสูงเป็นอันดับ 3 ในเพศชายสูงเป็นอันดับ 2 และโรคมะเร็งลำไส้ยังถูกตรวจพบในระยะแพร่กระจาย (ระยะ 4) มากเป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนผู้ป่วย 11,000 คนต่อปี และเสียชีวิต 6,845 คน อัตราเฉลี่ย 16-17 คน ต่อวัน มีปัจจัยเสี่ยงทั้งจากอาหารประเภทเนื้อแดง ไม่ออกกำลังกาย แอลกอฮอล์ บุหรี่ และกรรมพันธุ์ แต่จะมีสัญญาณเตือนภัยด้วยอาการเริ่มต้นอย่างไรนั้น Sanook! Health หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

นอกจากกรรมพันธุ์แล้ว ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มาจากพฤติกรรมในการทานอาหารที่ให้พลังงานสูง ไขมันเลว และน้ำตาลสูงมากเกินไป จนอาจเป็นเหตุให้เกิดภาวะโรคอ้วน ที่ผู้ป่วยโรคนี้จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนปกติถึง 1.2 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ก็มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกเช่นเดียวกัน

 

9 สัญญาณเตือนภัย มะเร็งลำไส้ใหญ่

1. ปวดท้องเป็นพักๆ ปวดๆ หายๆ

2. ท้องผูก สลับกับท้องเสีย ส่งผลให้อุจจาระแข็ง และเหลวสลับกัน

3. ปวดท้องอยากอุจจาระ แต่ไม่มีอุจจาระออกมา เหมือนถ่ายไม่หมด

4. อุจจาระมีมูกเลือดปน

5. อุจจาระลำเล็กกว่าปกติ

6. ท้องอืด ท้องแน่นตลอดเวลา

7. คลื่นไส้ อาเจียน

8. เคยได้รับการตรวจพบว่ามีติ่งเนื้อในลำไส้

9. มีประวัติพบบุคคลในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง

 

วิธีลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

ปรับพฤติกรรมในการทานอาหาร ลดแป้งขาว ไขมันเลว และน้ำตาลออกไปจากมื้ออาหารบ้าง ทดแทนด้วยผัก และผลไม้ที่มีกากใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายได้สะดวก ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ หากใครมีความเสี่ยง เช่น สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมะเร็ง ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพทุกปี 

อ่านต่อ >> อาหารลดเสี่ยง “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ยิ่งทาน ยิ่งดีต่อร่างกาย


จะเห็นได้ว่าอาการเริ่มต้นมาจากลักษณะของอุจจาระเสียเป็นส่วนใหญ่ หากมีอาการเหล่านี้ ไม่อาการใดอาการหนึ่ง หรือมีหลายอาการพร้อมกัน ขอให้สันนิษฐานว่าเราอาจจะมีความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ หรืออาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นขอให้รีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดนะคะ เพราะหากแพทย์รักษาได้เร็วเท่าไร โอกาสหายก็มีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook