5 ประโยชน์ของมะนาว นอกจากความเปรี้ยว แล้วยังช่วยขับถ่าย-ลดเจ็บคอ

5 ประโยชน์ของมะนาว นอกจากความเปรี้ยว แล้วยังช่วยขับถ่าย-ลดเจ็บคอ

5 ประโยชน์ของมะนาว นอกจากความเปรี้ยว แล้วยังช่วยขับถ่าย-ลดเจ็บคอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นึกถึงเครื่องดื่มที่ช่วยให้ความสดชื่นให้กับร่างกาย หลายคนอาจนึกถึงน้ำเย็นๆ หรืออาจคิดถึงน้ำอัดลม แต่หากอยากเลี่ยงน้ำตาลสูงๆ ก็อาจนึกถึงเครื่องรสเปรี้ยวอย่าง “น้ำมะนาว” ได้ มะนาวไม่ได้มีประโยชน์กับเราแค่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดถึงใจที่มอบความสดชื่นให้กับเราเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายอีกด้วย

Sanook Health มีข้อมูลดีๆ จาก นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ มาฝากกัน

5 ประโยชน์ดีๆ ของ "มะนาว"

  1. น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น ช่วยขับถ่าย/ขับของเสียออกจากร่างกาย
    การดื่มน้ำมะนาว หรือน้ำผสมนะนาวอุ่นๆ สามารถช่วยให้ร่างกายขับถ่าย ขับของเสียออกจากร่างกายได้ โดยสัดส่วนของน้ำอุ่น และน้ำมะนาวสดที่ควรดื่มไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น หากมีอาการเจ็บคอ หรือปวดท้องจากแผลในกระเพาะอาหาร การดื่มน้ำมะนาวสดเข้มข้นอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอ หรือกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นจึงควรลองผสม แล้วชิมดูว่าเป็นรสชาติที่เราพอจะจิบดื่มได้

    ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่ม สามารถเลือกดื่มในช่วงเช้าหลังตื่นนอนได้ แต่สำหรับใครที่มีโรคกรดไหลย้อนเป็นโรคประจำตัว ควรดื่มหลังรับประทานอาหารเช้า หรืออาจเป็นช่วงเวลาอื่นๆ ของวันได้ แต่ควรระมัดระวังในการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นก่อนนอน เพราะหากปริมาณน้ำมะนาวเข้มข้นมากเกินไป การดื่มในช่วงที่ท้องว่างอาจส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือทำให้ปวดแสบท้องได้

    นอกจากนี้ หากในมื้ออาหารนั้นๆ กินอาหารที่มีน้ำมะนาวเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว เช่น กินยำ แกงส้ม ต้มยำต่างๆ มื้อนั้นอาจงดการดื่มน้ำมะนาวไปก่อนได้

  1. น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการเจ็บคอ
    น้ำผึ้งแท้ที่สะอาด และปลอดภัย ไม่มีเชื้อโรค จะมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อโรคได้ ดังนั้นการผสมดื่มร่วมกันกับน้ำมะนาวที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) ช่วยลดการอักเสบได้ ดังนั้นจึงสามารถดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งเพื่อลดอาการเจ็บคอ คออักเสบ บวม แดง ร้อนที่เกิดในช่วงที่เป็นไข้หวัดได้

    ถ้าเราปรับสูตรน้ำผึ้งมะนาวให้เหมาะสม จะลดอาการระคายเคืองจากกรดของน้ำมะนาวได้ สังเกตอาการของตัวเองว่าถ้าจิบแล้วแสบคอ ให้ลดการใส่น้ำมะนาวลดลง

  1. น้ำมะนาว ลดอาการปวดศีรษะ
    มีบางสูตรที่ระบุให้เอากาแฟผสมกับน้ำมะนาว หรือฝานมะนาวลงไป เพื่อช่วยลดอาการปวดศีรษะทั่วไป รวมถึงอาการปวดศีรษะจากโรคไมเกรน แต่จริงๆ แล้วคาเฟอีนในกาแฟอาจทำให้ปวดศีรษะได้มากกว่า ดังนั้นหากอยากดื่มน้ำมะนาวเพื่อลดอาการปวดศีรษะ ไม่ควรผสมกับกาแฟ หากดื่มกาแฟไปแล้ว สามารถดื่มน้ำมะนาวตามหลังได้

  1. น้ำมะนาว ช่วยให้หายจากไข้หวัดเร็วขึ้น
    ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว จะมีวิตามินซี มะนาวก็เป็นอาหารที่มีวิตามินซีสูงเช่นกัน ซึ่งวิตามินไม่ได้มีฤทธิ์ป้องกันไข้หวัด แต่ช่วยให้อาการหวัดหายเร็วยิ่งขึ้น การรับประทานวิตามินซีให้เพียงพอทุกวัน ช่วยลดระยะเวลาในการเป็นไข้หวัดได้ เช่น จากที่เคยเป็นไข้หวัดปีละ 14 วัน อาจเหลือปีละ 10-12 วัน เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม ไม่ควรได้รับวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น นิ่วในไต คลื่นไส้ และท้องเสีย

  1. น้ำมะนาว ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซีต่างๆ
    ไม่ว่าจะเป็นโรคลักปิดลักเปิด (เลือดออกตามไรฟัน) ผิวซีด แผลหายยาก อ่อนเพลียง่าย และประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรค การรับประทานมะนาวในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน

ข้อควรระวังในการกิน และใช้มะนาว

แนะนำว่า มะนาวมีความเป็นกรดสูง การดื่มน้ำมะนาวสดที่มีความเข้มข้นมากๆ อาจทำให้ระคายเคืองอวัยวะต่างๆ ในระบบทางเดินอาหาร เช่น คอ หลอดอาหาร ลำไส้ กระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร อาจทำให้เกิดอาการแสบท้องได้

นอกจากนี้ การดื่มน้ำมะนาว หรือกัดเนื้อมะนาวกินตรงๆ รวมถึงการรับประทานอาหารที่ใส่มะนาว เช่น ยำ ต้มยำ ฯลฯ ควรบ้วนปาก หรือดื่มน้ำเปล่าตาม เพื่อลดความเข้มข้นของมะนาวที่ผิวเคลือบฟัน และไม่ควรรีบแปรงฟันหลังรับประทานมะนาวทันที เพราะอาจเสี่ยงฟันสึกกร่อนได้

สำหรับการใช้มะนาวที่มีฤทธิ์เป็นกรดค่อนข้างสูง หากจะนำมาผสมเป็นส่วนผสมในการบำรุงผิว ควรใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ผสมกับส่วนประกอบอื่นๆ หรือเจือจางลดความเข้มข้นลง ไม่ควรใช้มะนาวทาลงบนผิว หรือทาลงบนฟันเพื่อการฟอกสีฟันโดยตรง เพราะอาจกัดกร่อนผิวเคลือบฟัน รวมถึงผิวหนังอาจระคายเคืองได้เช่นกัน และไม่ควรใช้กับบริเวณที่มีผิวบอบบาง เช่น รักแร้ ผิวหน้าบริเวณรอบดวงตา ชั้นรอยพับแขน ขา เป็นต้น หากไม่ทราบว่าปริมาณที่ใช้เท่าไรถึงจะปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการทำส่วนผสมต่างๆ จากมะนาวด้วยตัวเองจะดีกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook