ตรวจสุขภาพ "หลอดเลือดแดง" ทุกปี ป้องกันหลอดเลือดแดงอุดตัน

ตรวจสุขภาพ "หลอดเลือดแดง" ทุกปี ป้องกันหลอดเลือดแดงอุดตัน

ตรวจสุขภาพ "หลอดเลือดแดง" ทุกปี ป้องกันหลอดเลือดแดงอุดตัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคหลอดเลือดแดงอุดตันถือเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิต นั่นเพราะส่วนใหญ่แล้วการดำเนินโรคเป็นแบบเรื้อรัง ทำให้ผู้ป่วยขาดความใส่ใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นมากแล้ว หากมีอาการปวดขา โดยเฉพาะเดินแล้วปวด  อย่านิ่งนอนใจ ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหลอดเลือด ป้องกันความเสี่ยงการเป็นแผลขาดเลือดเรื้อรังหรือสูญเสียอวัยวะ

สาเหตุของโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน

พญ.สุทธาทิพย์ เวชวิทย์วรากุล ศัลยแพทย์และแพทย์ด้านศัลยศาสตร์หลอดเลือด ศูนย์หลอดเลือด โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดแดงอุดตันเกิดจากการมีแคลเซียมเกาะผนังหลอดเลือด เปรียบได้กับท่อน้ำประปาเมื่อใช้ไปก็จะมีตะกรันมาเกาะตามอายุ แต่จะมีมากและเร็วขึ้นถ้าคนคนนั้นมีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน โรคไต  ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณขาและปลายเท้าไม่สะดวกจึงทำให้ มีอาการปวดขา แผลหายยาก 


อันตรายของโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน

โดยทั่วไปในขณะเดินกล้ามเนื้อที่ขาจะต้องการเลือดและออกซิเจนมากขึ้น ยิ่งบริเวณน่องเมื่อมีเลือดมาเลี้ยงไม่พอจะทำให้คนไข้รู้สึกปวด และเมื่อเป็นมากขึ้นเลือดมาเลี้ยงน้อยลงเรื่อยๆ จนถึงแม้ไม่ได้เดินหรือใช้งานกล้ามเนื้อก็จะเริ่มมีอาการปวดตลอดเวลา จนในที่สุดเลือดมาไม่พอที่จะเลี้ยงผิวหนังที่เท้าได้ ก็จะทำให้เป็นแผลเรื้อรัง เช่นแผลเบาหวาน แผลเนื้อเน่าตายลุกลามจนอาจต้องถูกตัดเท้าในที่สุด 

โรคหลอดเลือดแดงอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ชายและผู้หญิง แต่อาจพบมากในกลุ่มเสี่ยงที่ มีโรคประจำตัว เช่น

  1. โรคเบาหวาน
  2. โรคความดันโลหิตสูง
  3. โรคไต
  4. ไขมันในเลือดสูง
  5. สูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหรี่มาก่อน ที่ถึงแม้จะหยุดสูบแล้วแต่ผลกระทบของบุหรี่ที่มีต่อหลอดเลือดยังคงอยู่ 


การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดอุดตัน

การตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดอุดตันที่ขาสามารถทำได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มด้วยการตรวจความดันเปรียบเทียบทุกแขนขา ตรวจลักษณะความยืดหยุ่นของหลอดเลือดและการบีบตัว การตรวจด้วยอัลตราซาวน์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การฉีดสารทึบแสง รวมทั้งการตรวจด้วยเครื่อง MRI  


วิธีรักษาโรคหลอดเลือดแดงอุดตัน

ปัจจุบันแนวทางในการดูแลรักษาต้องทำควบคู่กันไป ดังนี้

  1. เลี่ยงปัจจัยเสี่ยง คุมเบาหวาน ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับโรค
  2. หมั่นตรวจเท้าด้วยตนเองทุกวันโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการชาอาจไม่รู้ตัวเวลามีแผล และควรพบแพทย์ตรวจสุขภาพเท้าทุกปีว่ามีจุดรับน้ำหนักใดที่ผิดปกติอาจต้องใช้รองเท้าที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคลเพื่อเป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดแผล
  3. ในรายที่มีเป็นมากขึ้นปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัดโดยเฉพาะในผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวซึ่งได้แก่การ ถ่างขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน ใส่สเตนต์ เป็นต้น
  4. การผ่าตัดบายพาส


ตรวจสุขภาพหลอดเลือดแดง ป้องกันโรคหลอดเลือดแดงอุดตันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

การตรวจเช็กสุขภาพหลอดเลือดทุกปีภายใต้คำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางอย่างเคร่งครัด จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้ในเบื้องต้น เริ่มจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจความดันเปรียบเทียบที่ข้อเท้าและต้นแขน หากความดันโลหิตที่ข้อเท้าต่ำกว่าต้นแขน จะได้ค่า ABI น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.9 อาจบ่งชี้ได้ว่ามีการอุดตันในหลอดเลือดแดงที่ขา แพทย์จะทำการตรวจหลอดเลือด ด้วย Pulse volume recoding (PVR) แต่ละส่วน(Segment) เพื่อวิเคราะห์สมรรถภาพการไหลเวียนของเลือดที่มาเลี้ยงที่ขาตำแหน่งต่างๆ จนถึงเท้า ทำให้ได้ผลการตรวจที่มีความน่าเชื่อถือ สะดวกรวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในระหว่างที่ตรวจ


กลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับ การตรวจสุขภาพหลอดเลือด

  • ผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดตีบแข็ง
  • ปวดขา
  • มีแผลเรื้อรัง
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน Peripheral Arterial Disease (PAD) 
  • ป่วยเป็นโรคหัวใจ
  • สูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหรี่
  • ป่วยเป็นเบาหวาน (Diabetes mellitus)
  • น้ำหนักเกิน มีดัชนีมวลกาย BMI >30
  • ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  • ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
  • คอเลสเตอรอลสูง 
  • ป่วยเป็นไตวายเรื้อรัง (Chronic renal insufficiency)

เป็นต้น รวมถึงในคนปกติที่ไม่มีอาการใดๆ ก็สามารถตรวจได้ ช่วยให้รู้ทันความเสี่ยงการอุดตันของโรคหลอดเลือด 

ทั้งนี้ การตรวจพบความผิดปกติของหลอดเลือดแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้รักษาได้เร็ว ลดความรุนแรง และการสูญเสียอวัยวะ คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น อีกทั้งการดูแลตัวเองเบื้องต้น เช่น การออกกำลังกายกล้ามเนื้อขาเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็ว หรือวิ่งเหยาะๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง วันละ 30 นาที หรือในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ควรลดน้ำหนักลง ควบคุมอาหาร รวมทั้งควบคุมโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ความดันโลหิต หรือไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ เป็นการป้องกันไม่ให้อาการโรคหลอดเลือดอุดตันรุนแรงขึ้นได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook