“Overinvolved Parenting” พ่อแม่บังคับลูกมากเกินไป บทเรียนจากซีรีส์จีน Go Ahead

“Overinvolved Parenting” พ่อแม่บังคับลูกมากเกินไป บทเรียนจากซีรีส์จีน Go Ahead

“Overinvolved Parenting” พ่อแม่บังคับลูกมากเกินไป บทเรียนจากซีรีส์จีน Go Ahead
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในหลายๆ ครอบครัวอาจจะลืมไปว่า ลูกมิสิทธิที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง แม้ว่าคนเป็นพ่อแม่จะเป็นห่วง อยากให้ลูกสุขสบาย และมีความคิดว่าให้ลูกทำ ให้ลูกเป็นอย่างที่วางแผนเอาไว้แล้วชีวิตเขาจะสบายที่สุด แต่อันที่จริงแล้วอาจเป็นการสร้างกำแพงให้ลูกอึดอัดจนไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตก็ได้

Sanook Health มีข้อมูลดีๆ ที่พูดถึง “Overinvolved Parenting” ข้อคิดจากซีรีส์จีนเรื่อง Go Ahead จาก หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา มาฝากทุกคน ทุกครอบครัวกัน


#เหตุเกิดเพราะแทรกแซงมากเกินไป

“หมิงเย่ว” ตัดสินใจสารภาพกับแม่ของเธอว่า ในสมัยที่เธออยู่ ม.6 และสอบเกาเข่า (ชื่อเรียกการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของจีน) เธอจงใจที่จะไม่ทำข้อสอบ โดยเว้นว่างกระดาษคำตอบไปเลยหนึ่งหน้า

เธอไม่อยากทำคะแนนจนสามารถสอบติดในคณะที่เธอไม่อยากเรียน (ซึ่งเป็นคณะที่แม่อยากให้เธอเรียน) แต่หมิงเย่วไม่สามารถขัดความต้องการของแม่ได้ตรงๆ ถ้าเธอสอบได้คะแนนมากๆ อย่างไรแม่ก็จะบังคับให้เธอไปเรียนตามใจแม่แน่ๆ

แม่อยากให้หมิงเย่วทำงานเป็นทนายความ ได้เรียนในคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ไม่ก็มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของจีน

ตั้งแต่เด็กหมิงเย่ว รู้สึกอึดอัดใจมาตลอดในทุกๆ เรื่อง เธอไม่เคยได้เลือกอะไรเอง เพราะแม่เป็นคนเลือกและตัดสินใจให้เธอทุกเรื่องมาตลอด

เธอไม่เคยจะพูดอะไรตรงๆ กับแม่ได้ ตั้งแต่เรื่องที่แม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าแบบไหน เธออยากใส่เสื้อเขียวแต่แม่บอกให้ใส่สีชมพู แม่ไม่ให้เธอเลือกเมนูอาหารเวลาไปทานที่ร้าน แม่บอกว่าอาหารที่แม่เลือก มันดีและมีประโยชน์ แต่อาหารที่เธอเลือกมันไม่ได้เรื่อง รวมทั้งการคบเพื่อน แม่ยังบอกให้เธอคบเพื่อนที่เรียนเก่งๆ มากกว่าเพื่อนที่เธอสนิทและชอบพอนิสัยใจคอ

screenshot2563-09-23at15.

แม่มักบอกว่าสิ่งที่หมิงเย่วคิดและเลือกเอง เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่โอเค แม้ว่าหมิงเย่วจะเรียนได้ดี สอบได้อันดับต้นๆ ของห้องตลอด แต่แม่ไม่เคยชมเธอเลย ทำอย่างไร ก็ไม่ดีในสายตาแม่ ถ้ายังทำไม่ได้ที่1 สิ่งที่ดีสำหรับแม่คือเรื่องที่แม่เลือกให้เธอ

แต่เพราะความฝันว่าตัวเองอยากจะเป็นนักข่าว ไม่ได้อยากเป็นทนายความ หมิงเย่วใช้โอกาสตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย แกล้งทำเป็นสอบไม่ได้คะแนนสูงๆ

สุดท้ายเธอก็ได้ไปเรียนวิชาสื่อสารมวลชนในมหาวิทยาลัยเล็กๆ ซึ่งเธอก็ดีใจและเต็มใจ อย่างน้อยเธอก็จะได้เป็นนักข่าว อย่างที่เธออยากเป็น มหาวิทยาลัยอะไรก็ได้

แม่แสดงออกชัดเจนว่าผิดหวัง หลังจากนั้นแม่ก็คิดแต่ว่าจะให้หมิงเย่วสอบบรรจุเป็นข้าราชการแทนที่จะทำงานเป็นนักข่าว ซึ่งแม่มองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงเท่าข้าราชการ แม่ยังคงวางแผนชีวิตให้เธอเป็นลำดับขั้น

จนในที่สุดหมิงเย่วก็ทนไม่ได้ บอกแม่ไปตรงๆ ว่าเธอทนไม่ไหวแล้วนะ และแม่ทำให้เธออึดอัดแค่ไหน เธอบอกแม่ไปทุกเรื่องในใจ รวมถึงเรื่องที่เธอแกล้งสอบไม่ได้ด้วย

หมิงเย่วเป็นตัวละครในซีรีส์จีนเรื่อง Go Ahead ซีรีส์ที่ทำให้หมอได้เห็นตัวอย่างของการเป็นพ่อแม่หลายๆ แบบ

พ่อแม่ทุกคนในเรื่องรักลูกมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจลูก และจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้เหมาะสมนัก พ่อแม่ในซีรีส์เป็นพ่อแม่แบบที่พบเห็นได้ในชีวิตจริง

โดยเฉพาะในการทำงานเป็นจิตแพทย์เด็กของหมอ พบพ่อแม่แบบแม่ของหมิงเย่วบ่อยๆ

พ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกแบบแทรกแซงไปทุกเรื่องแบบนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Over-involved parent ส่วนใหญ่พ่อแม่แบบนี้มักเป็นคนที่มีความวิตกกังวล และอาจจะต้องการความสมบูรณ์แบบ ดีเลิศ ไม่ชอบความผิดพลาดอย่างมาก

พ่อแม่แบบนี้จะไม่ไว้ใจว่าถ้าไม่ช่วยลูกคิดช่วยตัดสินใจ ลูกจะทำอะไรเองได้ดีอย่างที่พ่อแม่ต้องการหรือทำให้หรือไม่ พ่อแม่จะตามติดลูก คอยสังเกต ควบคุมดูแลเรื่องต่างๆ แม้แต่เรื่องส่วนตัว

แต่พ่อแม่คงจะลืมคิดไปว่า พ่อแม่ไม่สามารถคอยวิ่งตามเพื่อคิดและตัดสินใจแทนลูกไปได้ทุกเรื่อง

ลูกของพ่อแม่ที่แทรกแซงมากเกินไป เด็กอาจจะมีปัญหาเมื่อในเวลาที่ต้องคิดอะไรเองจริงๆ กลับคิดไม่เป็น ไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะที่ผ่านมาต้องพึ่งพาพ่อแม่ตลอด

พ่อแม่อาจจะบอกว่าเด็กเป็นคนเชื่อฟังหัวอ่อน ให้ทำอะไรก็ทำหมด ไม่มีปากมีเสียง แต่จริงๆมักมีความขัดแย้งลึกๆที่เด็กไม่กล้าพูดไม่กล้าบอก มีความต่อต้านอยู่ลึกๆ

หลายๆคนหากเก็บกดมากๆบางทีก็กลายเป็นปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ บางคนจากที่เคยเชื่อมาตลอดก็ต่อต้านขึ้นมาทันที

สิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุด อาจไม่ได้เหมาะกับลูกของเรา ต้องมองในมุมของลูกด้วยอย่างสมดุล ลูกอาจกำลังไม่มีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้เขาอยู่ก็ได้

พ่อแม่จะห่วงหรือกังวลกับลูกได้เป็นธรรมดา แต่อย่าลืมมีสติด้วย แม้ว่าเราจะเป็นพ่อแม่ของเค้า แต่ลูกก็ต้องโตไปมีชีวิตของตัวเอง เราอยู่กับลูกไม่ได้ตลอดไป

วันหนึ่งที่เขาต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง และไม่มีพ่อแม่คอยคิดหรือทำให้

ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ที่ต้องฝึกให้ลูกคิดและทำอะไรได้ด้วยตัวเอง แล้วลูกจะมีโอกาสทำอะไรเองเมื่อไหร่ แล้วตอนนั้นลูกจะพร้อมไหม

เป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องคิดให้หนักทีเดียว

screenshot2563-09-23at15._1


สามารถรับชม ซีรีส์ ถักทอรักที่ปลายฝัน Go Ahead ได้ฟรี ทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทยได้ในแอปพลิเคชั่น WeTV

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook