รู้จัก “โรคใคร่เด็ก” และวิธีระมัดระวังบุตรหลานจากผู้ป่วย

รู้จัก “โรคใคร่เด็ก” และวิธีระมัดระวังบุตรหลานจากผู้ป่วย

รู้จัก “โรคใคร่เด็ก” และวิธีระมัดระวังบุตรหลานจากผู้ป่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศนั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาในประเทศไทย เพราะคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็เคยตกเป็นข่าวในเรื่องทำนองนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งก็ยังเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม และที่น่าตกใจกว่าปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิง คือเหยื่อที่เป็นเด็กอายุไม่กี่ขวบ บางรายเป็นเด็กที่ยังไม่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเลยด้วยซ้ำ

แต่หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ การที่ใครสักคนจะมีอารมณ์ทางเพศกับเด็กตัวเล็กๆ ได้นั้น มันไม่ใช่รสนิยมอย่างการชอบคนที่อายุน้อยกว่า แต่มันเป็นความผิดปกติทางจิต อาการทางจิตที่เป็นภัยสังคม และผู้ที่ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษา

รู้จัก “โรคใคร่เด็ก” ว่าคืออะไร

โรคใคร่เด็ก (Pedophilia) จัดเป็นพฤติกรรมวิตถารอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นอาการทางจิตที่ผิดปกติ เป็นความบกพร่องทางบุคลิกภาพตั้งแต่เด็ก โดยเกิดขึ้นจากการที่เด็กเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การเลี้ยงดูที่มีปัญหา เด็กอาจเผชิญกับความรุนแรงตั้งแต่เยาว์วัย เช่น ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ถูกข่มเหงรังแก ยังรวมถึงการที่ถูกบังคับขู่เข็ญให้อยู่ในกรอบจนกดดัน ทำให้เด็กเจริญเติบโตขึ้นมามีบุคลิกภาพที่ผิดปกติจากเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน

แต่เมื่อเด็กเติบโตขึ้นมาแล้ว ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ (หรือที่เราคุ้นหูว่าเป็นคนมีปม) ทำให้คนคนนั้นเกิดความรู้สึกต้องการที่จะชดเชยบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปในวัยเด็ก หรือความรู้สึกทุกข์ทรมานต่าง ๆ ที่เคยได้รับ พอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เติบโตพอที่จะไม่อยู่ในฐานะของผู้ที่ด้อยกว่า หรือเหยื่ออีกต่อไปแล้ว จึงกลายเป็นผู้กระทำเสียเอง

Pedophilia (พีโดฟิเลีย) มีรากศัพท์มาจาก Pedos หรือ Pidos ในภาษากรีกที่แปลว่า “เด็ก” ส่วน Philia แปลว่า “ชอบหรือรัก” เมื่อรวมกันแล้ว จึงแปลว่าชอบหรือรักเด็ก ซึ่งรักในที่นี้ไม่ใช่ความรักแบบเมตตาอาทร หรือปรารถนาดีอะไรทำนองนั้น แต่เป็นความรักที่เกินขอบเขต รักแบบคลั่งรัก ต้องการให้เด็กเป็นของของตัวเอง จนนำไปสู่การนำเด็กมาเป็นเหยื่อบำบัดความใคร่ทางเพศของตนเอง

โดยทั่วไป ผู้ป่วยโรคใคร่เด็กจะเป็นเพศชายที่อยู่ในวัยตั้งแต่ประมาณ 35-40 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่แต่งงานแล้วหรือมีบุตรแล้วด้วย (บางคนจึงใช้บุตรของตัวเองเป็นเหยื่อ) สามารถพบผู้ป่วยเป็นเพศหญิงด้วยเหมือนกันแต่น้อยกว่า โดยเราอาจจะเคยเห็นข่าวที่มีผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิงข่มขืนกระทำชำเราเด็กชาย อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยโรคใคร่เด็กที่เป็นเพศชายก็ไม่ได้ล่วงละเมิดแค่เด็กผู้หญิงเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาสามารถล่วงละเมิดเด็กผู้ชายได้ด้วยเหมือนกัน

บ่อยครั้งผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลใกล้ตัวเด็กเอง เพราะเมื่อเด็กเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ อยู่ใกล้ชิดกัน ก็ยิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุปรารถนาจะระบายความใคร่กับเด็ก ที่สำคัญผู้ป่วยโรคนี้จะค่อนข้างสังเกตอาการจากภายนอกได้ยาก เนื่องจากมักจะไม่แสดงพฤติกรรมที่ชัดเจน ภายนอกพวกเขาจะดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่อาจจะมีลักษณะที่ดูเจ้าระเบียบ เข้มงวด ตื่นเต้นง่าย

“ใคร่เด็ก” กับ “รักเด็ก” ไม่เหมือนกัน

อาการของโรคใคร่เด็ก เป็นความผิดปกติทางจิต ดังนั้นพฤติกรรมที่แสดงออกจึงไม่ใช่การแสดงความรักแบบเมตตาอาทร แต่คือความรู้สึกปรารถนาจะมีสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กที่มีอายุน้อยกว่าตนเองมาก และจะต้องเป็นเด็กที่อยู่ในวัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ เฉลี่ยแล้วคือประมาณ 12-13 ปี นั่นคือเด็กที่ยังไม่เข้าสู่วัยรุ่น หรือวัยรุ่นแรกเริ่ม แต่ก็มีอยู่เหมือนกันที่เหยื่อเป็นเด็กที่ยังอายุน้อยมาก ๆ ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อย่างเด็กประถม เด็กอนุบาล และเด็กทารก ทั้งนี้ทั้งนั้นความปรารถนาทางเพศของผู้ป่วยจะค่อนข้างเฉย ๆ กับคนวัยใกล้เคียงกัน หรือคนที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว

ลักษณะอาการของผู้ป่วยจะเริ่มมีอารมณ์ทางเพศเมื่อเห็นเด็ก เริ่มจากความเอ็นดู แต่หลังจากนั้นจะเริ่มพยายามเข้าใกล้เด็กให้มากขึ้น ด้วยวิธีการตีสนิท หลอกล่อ ให้รางวัล ให้ขนม หรือให้เงิน เพื่อให้เด็กเชื่อใจ จนในที่สุดก็สนองความต้องการทางเพศของตัวเองได้ โดยทั่วไปเด็กมักจะถูกลวนลาม กอดจูบลูบไล้ ถูกบังคับหรือจับเปลือยกาย ไปจนถึงการร่วมเพศ

แต่หลังจากที่สามารถสนองความใคร่ของตนเองได้แล้ว ผู้ป่วยบางรายไม่หยุดเพียงเท่านั้น แต่อาจทำร้ายเหยื่อจนบาดเจ็บ ถูกข่มขู่ให้เก็บเป็นความลับ บางรายต้องทนเป็นเหยื่ออยู่นานตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น ซึ่งกว่าจะมีคนรู้เรื่องก็คือตั้งครรภ์ เพราะเด็กเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และเหยื่อบางรายก็ถูกฆ่า

“ใคร่เด็ก” เป็นโรคที่ต้อง “ได้รับการรักษา”

อาการของโรคใคร่เด็กนี้จะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ผู้ป่วยเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และจะเป็นไปตลอดชีวิต ถ้าไม่ได้รับการบำบัดรักษาอาการจะยิ่งรุนแรงขึ้น ในท้ายที่สุดจะเป็นผู้ก่ออาชญากรรมที่เป็นภัยต่อสังคม คนมักจะเรียกคนพวกนี้ว่าเป็นพวกหื่น บ้ากาม พวกวิตถาร แก่ตัณหากลับ หรือเฒ่าหัวงู แต่ส่วนใหญ่คนทั่วไปไม่ได้มองว่าเป็นโรคที่ต้องพาไปรักษา อาจจะมองว่าเป็นโรคจิต แต่ไม่ได้ใส่ใจว่าผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ แค่มองว่าเป็นแค่อาการหื่นของคนที่มีความต้องการทางเพศชั่วขณะเพราะเกิดแรงกระตุ้นจากเด็ก

การบำบัดรักษาโรคใคร่เด็กจะเน้นไปที่การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมและระงับความต้องการทางเพศของตัวเองให้ได้ โดยผู้ป่วยต้องเข้าพบและบำบัดรักษาจากจิตแพทย์ ที่เชี่ยวชาญ แพทย์จะต้องประเมินก่อนว่าผู้ป่วยมีอาการในขั้นไหนต้องเริ่มบำบัดรักษาอย่างไร แล้วค่อยปรับพฤติกรรมของผู้ป่วย ทั้งยังอาจต้องจ่ายยาเพื่อลดความรู้สึกทางเพศ หรือยาต้านโรคซึมเศร้าให้ผู้ป่วยด้วย

จะระมัดระวังบุตรหลานของท่านได้อย่างไร

แรกเริ่มคือการต้องสอนเด็กอย่างตรงไปตรงมาให้ระมัดระวังตัว ซึ่งเด็กเองก็อาจจะไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่จะสอนอะไร แต่ต้องให้เด็กรู้ว่าถ้าจะมีคนมาจับตัว ต้องพยายามออกห่าง พยายามไม่อยู่กับผู้ใหญ่ต่างเพศตามลำพัง (แม้แต่เพศเดียวกันก็ต้องระวังเหมือนกัน)

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เฉพาะคนแปลกหน้าเท่านั้นที่เด็กต้องระวังตัว แต่ต้องให้เด็กระมัดระวังคนใกล้ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน ญาติ หรือแม้แต่พ่อแท้ ๆ บางทีก็เชื่อใจไม่ได้ ทั้งควรสอนให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมลักษณะไหนที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งก็ได้แก่ การสัมผัสที่มากเกินปกติ ถูกเนื้อต้องตัว หอมแก้ม กอดจูบลูบคลำ หรือขอดูเด็กเปลือยกาย หากเจอเรื่องทำนองนี้ต้องให้เด็กพูดปฏิเสธให้เป็น และสอนวิธีอยู่ให้ห่างมากที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook