“ออกกำลังกาย” แบบไหน เผาผลาญพลังงานได้เท่าไร?

“ออกกำลังกาย” แบบไหน เผาผลาญพลังงานได้เท่าไร?

“ออกกำลังกาย” แบบไหน เผาผลาญพลังงานได้เท่าไร?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยรู้สึกกันหรือไม่ว่าหลายๆ ครั้งที่เราไปออกกำลังกาย เล่นกีฬาหนักๆ หวังว่าจะได้เบิร์นพลังงาน และขจัดเจ้าไขมันส่วนเกินลงไปบ้าง แต่เจ้าไขมันที่แอบมาอยู่นิ่งๆ ที่รอบเอวก็ยังจะดื้อ ไม่ยอมหลบไปไหน ทั้งๆ ที่กิจกรรมที่เราทำ การออกกำลังกายหนักๆ ก็น่าที่จะได้เผาผลาญพลังงานไปได้เยอะแล้ว ลองมาดูกันว่ากีฬาที่เราไปเล่น กับการออกกำลังกายแต่ละประเภท ช่วยเผาผลาญพลังงานกันอย่างไรบ้าง

“ออกกำลังกาย” แบบไหน เผาผลาญพลังงานได้เท่าไร?

กอล์ฟ 

การออกรอบ เล่นกอล์ฟ เป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี่ ดูจะน้อยกว่าการเดิน

เดิน

หากเดินอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 325 กิโลแคลอรี่ ใกล้เคียงกับการเล่นแบดมินตัน

แบดมินตัน

หากเราเล่นแบดมินตันเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. จะเผาผลาญพลังงานได้ถึงประมาณ 350-400 กิโลแคลอรี่

แอโรบิค

การออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี ได้แก่การเต้นแอโรบิค ที่จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 500-600 กิโลแคลอรี่ 

วิ่งเหยาะ

การวิ่งเหยาะ เผาผลาญพลังงานประมาณ 600-700 กิโลแคลอรี่ 

ปั่นจักรยาน

การปั่นจักรยาน ด้วยความเร็วประมาณ 20 ก.ม. ต่อชั่วโมง เผาผลาญพลังงานประมาณ 700 กิโล แคลอรี่

ว่ายน้ำ

การว่ายน้ำ ด้วยความเร็วประมาณ 3 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานประมาณ 850 กิโลแคลอรี่ จากการออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงเท่าๆ กัน

ยกมาให้ดูกันพอเป็นตัวอย่าง คงพอจะเห็นว่าการออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุดในด้านการเผาผลาญพลังงาน คือการออกกำลังกายที่ไม่หนัก ไม่ได้เน้นที่การเคลื่อนไหวเร็วๆ แต่เน้นที่การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของร่างกายหลายๆ ส่วน ใครที่กำลังมองหากิจกรรมเพื่อขจัดเจ้าไขมันส่วนเกิน หรือกำลังวางแผนอยากจะลดน้ำหนัก คงพอจะมองเห็นแนวทางกันบ้างแล้ว 

HIIT การออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ

และจากข้อมูลที่ได้นำมาฝากกัน คงทำให้หลายๆ คนนึกไปถึงการออกกำลังกายในแบบ HIIT (High Intensity Interval Training) ซึ่งก็คือการแบ่งช่วงการออกกำลังกายออกเป็นช่วงสั้นๆ สลับกันระหว่างการออกกำลังกายในระดับความเร็วสูงสุด และการออกกำลังกายในระดับความเร็วปานกลาง โดยจะทำสลับกันเป็นเซ็ต

ข้อดีของการออกกำลังกายแบบ HIIT

ข้อดีของการออกกำลังกายในลักษณะนี้ นอกเหนือจากการได้กระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ได้ทำงาน และแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ให้ผลลัพธ์เต็มที่ ภายในระยะเวลาที่สั้นลง อีกทั้งการออกกำลังกายในแบบ HIIT ยังสามารถใช้ได้กับเครื่องออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ทุกประเภทที่มีอยู่ในฟิตเนสและยังสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ เช่นการวิ่ง อีกด้วย

เอาล่ะ ได้ข้อมูลกันไปพอสมควรแล้ว มาเริ่มต้นดูแลสุขภาพกันดีกว่า เปลี่ยนชุด หยิบรองเท้า แล้วเตรียมตัวไปออกกำลังกายกันได้เลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook