5 เทคนิคชั้นยอดเสริม "หัวใจ" แข็งแรงปี 2564

5 เทคนิคชั้นยอดเสริม "หัวใจ" แข็งแรงปี 2564

5 เทคนิคชั้นยอดเสริม "หัวใจ" แข็งแรงปี 2564
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย และรับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ เป็นตัวอย่างคำแนะนำเพื่อสุขภาพหัวใจที่เชื่อว่าคุณเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่รู้หรือไม่ว่าการทำตามคำแนะนำเหล่านี้จะส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจอย่างไรบ้าง

ดร. หลุยส์ อิกนาโร นักเภสัชวิทยาเชิงวิจัยและได้รับรางวัลโนเบล สาขาการแพทย์จากผลงานวิจัยเกี่ยวกับไนตริกออกไซด์ (nitric oxide) พบว่ายังมีคนอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเขาส่งผลต่อสุขภาพหัวใจและสุขภาพร่างกายโดยรวมมากน้อยขนาดไหน

เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการตัดสินใจของเราจะส่งผลดีต่อชีวิตในระยะยาวจริงๆ สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจผลลัพธ์ที่ตามมา เมื่อเราลดน้ำหนักสำเร็จ เราจะเห็นความแตกต่างก่อนและหลังลดน้ำหนักได้ชัดเจน แต่การมีสุขภาพหัวใจที่ดีหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่วัดได้ยากกว่า

ลองมาดูวิธีการดูแลสุขภาพ 5 ประการต่อไปนี้ที่ดร. อิกนาโร อยากแนะนำ เพื่อผลลัพธ์ดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพหัวใจของคุณ

  1. ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

เรารู้ดีว่ากิจกรรม เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่มีน้อยคนที่รู้ว่ากิจกรรมเหล่านี้ยังดีต่อสุขภาพหัวใจด้วย การออกกำลังกายช่วยให้หลอดเลือดคลายตัวและขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นการผลิตไนตริกออกไซด์ในร่างกายซึ่งช่วยบำรุงหัวใจ เนื่องจากไนตริกออกไซด์ควบคุม กำหนด และปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นยิ่งเราออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งผลิตไนตริกออกไซด์ได้มากขึ้นเท่านั้น ทำให้หัวใจมีสุขภาพดีขึ้น

  1. รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เหมาะสม

การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจได้อย่างยืนยาว ผักและผลไม้สด โปรตีนและธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย รวมถึงสารอาหารที่จำเป็น เพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดี

อาหารจำพวกปลาที่มีไขมัน ได้แก่ ปลาแซลมอน แมคเคอเรล และทูน่า รวมถึงเมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท เมล็ดฟักทองและถั่วเหลือง เต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 การบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดกรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid: EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid: DHA) จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้

ปลาไม่เพียงเป็นเมนูที่ดีแทนการรับประทานเนื้อวัวซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง แต่กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลายังช่วยเสริมระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

  1. จัดการกับความเครียดให้ดีขึ้น

หากคุณคิดว่ากิจกรรม เช่น โยคะ ทำสมาธิ และการหายใจลึกๆ ไม่เหมาะกับคุณ อยากให้ลองคิดดูใหม่ กิจกรรมคลายเครียดเหล่านี้ช่วยให้สุขภาพร่างกายคุณดีขึ้นได้มากกว่าที่คุณคิด

ความเครียดทำให้ความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น เราจึงควรหาวิธีลดความเครียดที่ดีต่อสุขภาพ อันที่จริงแล้ว มีหลายงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงว่าความเครียดเรื้อรังก่อให้เกิดโรคหัวใจได้

ในขณะที่มีทฤษฎีมากมายบอกว่าการลดความเครียดช่วยให้หัวใจแข็งแรงได้อย่างไร นักวิจัยหลายคนยังเชื่อว่าระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลร้ายต่อสภาวะอื่นๆ ในร่างกายได้ด้วย ตัวอย่างเช่น หากระดับความดันโลหิตหรือคอเลสเตอรอลของคุณสูงอยู่แล้ว มันก็จะสูงขึ้นไปอีกหากคุณเครียด และความเครียดอาจส่งผลให้เลือดอุดตัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย

คนที่มีระดับความเครียดน้อยมีแนวโน้มที่จะชอบออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ช่วยให้เรามีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง ดังนั้นการลดความเครียดไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายของคุณมีความสมดุล และช่วยรักษาระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

  1. ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

การลดน้ำหนักในระดับที่เหมาะสมมีผลต่อสุขภาพหัวใจของเราได้อย่างมหาศาล การมีน้ำหนักตัวที่พอดีช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานได้ แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย

การมีน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หนึ่งในนั้นคือช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อน้ำหนักตัวโดยเฉพาะไขมันหน้าท้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลอดเลือดแดงจะขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

การไหลเวียนของเลือดที่ดีเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญสู่การมีระบบหัวใจและหลอดเลือดที่แข็งแรง การลดน้ำหนัก (หรือการดูแลรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่ดี หากคุณมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมอยู่แล้ว) ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สำคัญที่สุดที่ช่วยเสริมให้หัวใจแข็งแรง

  1. ดูแลสุขภาพเยื่อบุผนังหลอดเลือด (Endothelium) แหล่งผลิตไนตริกออกไซด์ ให้ดี

ไนตริกออกไซด์เป็นหนึ่งในโมเลกุลที่สำคัญที่สุดในระบบหัวใจและหลอดเลือด ไนตริกออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะได้มากขึ้น ซึ่งดีต่อความดันโลหิตและช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง แต่การจะเพิ่มปริมาณไนตริกออกไซด์ เราต้องดูแลเยื่อบุผนังหลอดเลือดหรือเอนโดธีเลียม(endothelium) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไนตริกออกไซด์ให้ดีเสียก่อน

ร่างกายของเราประกอบด้วยเซลล์บุผนังหลอดเลือดจำนวน 6 ล้านล้านเซลล์ ซึ่งมีเส้นเลือดยาว 60,000 ไมล์เป็นชั้นเดียว เซลล์เหล่านั้นประกอบกันเป็นอวัยวะที่เรียกว่า เยื่อบุผนังหลอดเลือด (endothelium) เยื่อบุผนังหลอดเลือดเป็นเครือข่ายเซลล์เพียงอันเดียวในระบบหัวใจและหลอดเลือดทั้งหมดที่สามารถผลิต ไนตริกออกไซด์ได้ ดังนั้นจึงเราจึงจำเป็นต้องดูแลเยื่อบุผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง

สุขภาพของเยื่อบุผนังหลอดเลือดที่ดี (Endothelial wellness) ก็คือการดูแลเซลล์บุผนังหลอดเลือดของเราให้แข็งแรงและทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะไนตริกออกไซด์มีส่วนสำคัญมากในการรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ รวมถึงการไหลเวียนและการแข็งตัวของเลือดในแต่ละวินาที

การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดความเครียดและลดน้ำหนัก ล้วนทำให้สุขภาพของเยื่อบุผนังหลอดเลือดแข็งแรง

การเสริมด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 CoQ10 กุ้งเคย (Krill) กระเทียมและชาเขียว ยังทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดแข็งแรงด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นและช่วยให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดทำงานได้ดีที่สุด เมื่อเยื่อบุผนังหลอดเลือดมีสุขภาพดี ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีระดับไนตริกออกไซด์ที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อการไหลเวียนของเลือดและความดันโลหิต รวมถึงระบบการทำงานของร่างกายโดยรวมทั้งหมด

ประโยชน์ของการมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงในระยะยาว

ดูแลสุขภาพหัวใจด้วยการมีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับหน้าที่และอายุการใช้งานของหัวใจ ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และจัดตารางออกกำลังกายแอโรบิกอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเสริมด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook