5 วิธีดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน เลี่ยงการถูก “ตัดเท้า”

หลายคน ทั้งที่เป็น และไม่ได้เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน น่าจะเคยได้ยินถึงเรื่องของ “การตัดเท้า/ตัดขา” ของผู้ป่วยโรคเบาหวานกันมาบ้างแล้ว ทำไมเป็นโรคเบาหวานแล้วถึงเสี่ยงโดนตัดเท้า ตัดขา และเรามีวิธีดูแลรักษาเท้าของผู้ป่วยเบาหวานอย่างไร Sanook! Health มีคำตอบมาฝากค่ะ

 

ทำไมป่วยเป็นโรคเบาหวาน จึงเสี่ยงโดนตัดเท้า/ตัดขา?

โรคเบาหวาน ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเท้าตีบ เลือดไปเลี้ยงเท้าไม่เพียงพอ จนเกิดปลายประสาทอักเสบ เกิดแผลกดทับ และสุดท้ายอาจเกิดการติดเชื้อที่แผล จนทำให้เป็นโรคแทกซ้อนทางผิวหนัง เช่น ผิวแห้ง เชื้อรา อักเสบเป็นหนอง เป็นแผลไม่หายจนเซลล์เนื้อตาย และในที่สุดก็ต้องตัดส่วนที่เป็นแผล และรอบๆ บริเวณแผลทิ้งไป เพื่อรักษาเซลล์ดีๆ ให้ยังอยู่ ไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม

 

อาการผิดปกติของเท้าผู้ป่วยเบาหวาน เป็นอย่างไร

เท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีอาการชา ไม่มีความรู้สึก เนื่องจากหลอดเลือดตีบจนเลือดไปเลี้ยงส่วนเท้า ปลายนิ้วเท้าไม่ถึง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดแผลโดยไม่รู้ตัว จนกลายเป็นแผลที่รักษาไม่หายในภายหลังได้ เช่น อาจโดนตะปู หรือไม้ตำแล้วไม่รู้สึกตัว จนเผลอปล่อยให้แผลอักเสบเป็นหนอง โดยไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที

 

5 วิธีดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน เลี่ยงการถูก “ตัดเท้า” จาก เฟศบุ๊คเพจ โรคร้ายไม่ตายง่ายๆ by หมอท๊อป

1. อย่าเดินเท้าเปล่า

2. ตัดเล็บเท้าให้ตรง อย่าเข้ามุมมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดแผลจากการตัดเล็บลึดจนเกินไป

3. ล้างเท้า เช้า เย็น สังเกตใต้ฝ่าเท้าทุกครั้งว่ามีแผล หรือสิ่งผิดปกติหรือไม่

4. อย่าสวมรองเท้าแน่นเกินไป เลือดจะไหลเวียนไม่สะดวก และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเป็นแผลจากรองเท้ากัด หรือการเสียดสีกับรองเท้าจนเกิดแผล

5. อย่าตัดหูด หรือตาปลาเอง เพราะมีโอกาสที่จะกลายเป็นแผลใหญ่ และยิ่งหากดูแลความสะอาดไม่ดี จะยิ่งทำให้แผลติดเชื้อได้

 

เรื่องเท้าของผู้ป่วยเบาหวานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อเท้ามีแผลติดเชื้อแล้ว โอกาสที่จะต้องตัดมีสูงมาก ดังนั้นควรดูแล และหมั่นสังเกตให้ดี จะได้ไม่โดนตัดเท้าจนกลายเป็นผู้พิการไปนะคะ แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดีตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดด้วย รับรองว่าเบาหวาน ดีขึ้นได้ ถ้าดูแลตัวเองดีค่ะ

 

อ่านการ์ตูนการดูแลเท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในเฟซบุ๊คเพจ โรคร้ายไม่ตายง่ายๆ by หมอท๊อป ด้านล่างค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก siamhealth.net, โรคร้ายไม่ตายง่ายๆ by หมอท๊อป
ภาพประกอบจาก istockphoto