8 วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท

8 วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท

8 วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สูงอายุฝึกเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา รับประทานอาหารให้พอดี ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน งดสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ งดอ่านหนังสือ งดดูโทรศัพท์มือถือและงดดูโทรทัศน์ก่อนเข้านอน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับในผู้สูงอายุให้มีคุณภาพที่ดี

ผู้สูงอายุ กับปัญหาการนอนหลับ

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาทิ การรับรสที่เปลี่ยนแปลงไป สายตามัวลง หูได้ยินไม่ชัดเจน ความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวลดลง รวมถึง การนอนหลับพักผ่อนของร่างกาย 

ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาการนอนหลับ

พบว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้การนอนของผู้สูงอายุไม่มีคุณภาพ ได้แก่ 

  • จำนวนชั่วโมงในการนอนลดลงเล็กน้อย 
  • มีการตื่นระหว่างคืนมากขึ้น 
  • มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 
  • โรคประจำตัวหรือยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการนอนหลับบรรยากาศในบ้านพัก 
  • การขาดกิจกรรมระหว่างวัน 

เป็นต้น 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การนอนหลับในผู้สูงอายุมีคุณภาพลดลง ดังนั้น บุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุ และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการนอนของผู้สูงอายุ เพื่อจะได้วางแผนการดูแลที่เหมาะสม

วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาภาวะนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ โดยทั่วไปแพทย์มักจะรักษาโดยไม่ใช้ยา แต่จะให้ผู้สูงอายุปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น

  1. ฝึกเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา 
  2. รับประทานอาหารให้พอดี 
  3. ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้าและบ่าย 
  4. งดสูบบุหรี่ 
  5. ลดแอลกอฮอล์ 
  6. งดอ่านหนังสือ งดดูโทรศัพท์มือถือและงดดูโทรทัศน์ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที 
  7. หากผู้สูงอายุไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เองหรือต้องนอนบนเตียงเป็นส่วนใหญ่ ผู้ดูแลจะต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม 
  8. สำหรับผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ ควรลดการทำกิจกรรมที่ส่งเสียงดังรบกวนการนอน 

แพทย์อาจพิจารณารักษาโดยใช้ยา ซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากระบบเผาผลาญและการทำลายยาในผู้สูงอายุจะทำงานลดลงทำให้ฤทธิ์ของยาตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติ หรือทำให้ร่างกายเกิดความเคยชินต้องใช้ยาที่มีขนาดสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การรักษาโดยการใช้ยาจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และผู้ดูแลควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดต่อผู้สูงอายุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook