“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?

“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?

“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีใครสงสัยเรื่องประเภทของ “น้ำมันมะกอก” หรือเปล่า ทำไมบางชนิดใช้ทอดได้ บางชนิดใช้ใส่ในสลัดได้ แล้วเราจะเอาชนิดที่ใส่สลัดไปทอดได้หรือเปล่า Sanook Health จะอธิบายให้ฟังค่ะ 

ประเภทของน้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

  1. น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin)

    น้ำมันมะกอกประเภทนี้เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม ไดด้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมาจากมะกอกสดๆ ดังนั้นจึงเป็นน้ำมันมะกอกที่ดีที่สุดในบรรดาน้ำมันมะกอกทุกประเภท และมีราคาสูง ใช้ทานสดๆ แบบผสมเป็นน้ำสลัด หรือทำเป็นซอสพาสต้าได้ แต่ต้องไม่ผ่านความร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และไขมันดีก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกายแทน

    ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการในการทอด หรือผัด
    น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin)istockphoto
  2. น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin)

    เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ได้จากการบีบสดจากลูกมะกอกเหมือนกัน แต่ผลมะกอกจะแก่กว่า มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ดังนั้นยังถือว่าดีต่อสุขภาพเหมือนกัน แค่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย

    ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้การทอด หรือผัด
    น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin)istockphoto
  3. น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil)

    เป็นน้ำมันที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่เพิ่มเติมคือทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแบบเร็วๆ ได้ แต่ก็ยังทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม

    ควร : นำไปใช้ผัดอาหารแบบเร็วๆ เช่นผัดผัก ข้าวผัด

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้ทอดอาหารนานๆ เด็ดขาด
    น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil)istockphoto
  4. น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil)

    เป็นน้ำมันประเภทข้างบนแบบเพียวๆ โดยที่ไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ ยังถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารดีๆ อยู่บ้าง แต่ก็หายไปบ้างจากการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไปโดยผ่ายกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้นำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

    ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส
    น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil)istockphoto
  5. น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil)

    มาจากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากกากมะกอกอีกที แล้วนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอกเกรดคุณภาพต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภททอดที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสูงกว่าน้ำมันมะกอกชนิดอื่นๆ เช่นกัน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

    ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส
    น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil)istockphoto

หากอยากรู้รายละเอียดของน้ำมันแต่ละประเภท กับไขมันอิ่มตัว และไม่อิ่มตัวอย่างละเอียด สามารถอ่านได้ใน “น้ำมันหมู VS น้ำมันพืช ตกลงอันไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน?” นะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook