ชาเขียว ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งจริงหรือ?

ชาเขียว ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งจริงหรือ?

ชาเขียว ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งจริงหรือ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ตามชั้นวางขายน้ำเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาจากชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวรสต้นตำรับ ชาเขียวผสมน้ำมึ้งมะนาว ชาเขียวใส่นม และอีกสารพัดสูตร เจ้าชาเขียวนี้ว่ากันว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ถึงทำให้คนเฮโลกันไปซื้อดื่มกันมากมาย แต่จะถึงขั้นมีประโยชน์มากเสียจน “ลดโอกาสในการเกิดมะเร็ง” ได้หรือไม่ Sanook! Health มีคำตอบจากรายการ Happy and Healthy มาฝากค่ะ

 

 

ชาเขียว เป็นพืชที่ชาวจีนนำมาทำเป็นเครื่องดื่มมาตั้งแต่สมัยพันปีก่อน ในแพทย์แผนโบราณของจีนได้กล่าวเอาไว้ว่า ชาเขียวช่วยย่อยอาหาร และสารพิษภายในร่างกายได้

ชาที่เรานิยมบริโภคกันในปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ชาจีน ชาเขียว และชาฝรั่ง แต่ละประเภทของชาก็จะแตกต่างกันไปตรงกรรมวิธีในการปรุงชา

ชาที่มีประโยชน์มากที่สุด คือ ชาเขียว เพราะเป็นชาที่ไม่ผ่านการหมัก ส่วนประกอบที่มีประโยชน์จึงไม่ถูกทำให้สูญเสียไปเหมือนกับชาชนิดอื่นๆ

ในชาเขียวประกอบไปด้วยสารต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นสารประกอบที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารประกอบที่มีชื่อว่า Epigallocatechin gallate (EGCG) จากผลการทดลองในห้องทดลองพบว่า สารประกอบชนิดนี้สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

นอกจากนี้ ในท้องถิ่นที่มีการดื่มชาเขียวกันเป็นประจำ พบว่า ประชากรมีโอกาสพบมะเร็งในกระเพาะอาหารต่ำกว่าปกติ

แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า การดื่มชาเขียวร้อนเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ 100% เรายังคงต้องรอการวิจัยค้นคว้ากันในอนาคต

 

ประโยชน์จากชาเขียว

ชาเขียวช่วยลดความอ้วน เพราะชาเขียวช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย นอกจากนี้ชาเขียวยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ

 

อันตรายจากชาเขียว

แม้ว่าชาเขียวจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากดื่มในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ อาทิ อาการใจสั่น ปวดศีรษะ หรือนอนไม่หลับได้

 

หากอยากดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรดื่มชาเขียวที่ชงจากใบช้า ดื่มประมาณ 1-3 ถ้วยต่อวัน และไม่ควรดื่มชาเขียวสำเร็จรูปบ่อยจนเกินไป เพราะอาจมีน้ำตาลแฝงมาด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook