12 เคล็ดลับทานอาหารเพิ่งพลังสมอง สำหรับนักเรียน-วัยทำงาน

12 เคล็ดลับทานอาหารเพิ่งพลังสมอง สำหรับนักเรียน-วัยทำงาน

12 เคล็ดลับทานอาหารเพิ่งพลังสมอง สำหรับนักเรียน-วัยทำงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากคุณเป็นหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองอ่านหนังสือไม่เข้าหัว สมาธิแตกกระเจิงได้ง่าย หรือทำงานไม่ค่อยจะทัน แถมยังมีการประชุมต่อเนื่อง อีเมลก็ตอบไม่หมด เห็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่าง นั่นก็คือ “อาหาร” เพราะอาหาร มีบทบาทสำคัญต่อเรามากกว่าที่เราคิด มีทั้งอาหารที่ควรรับประทาน และไม่ควรรับประทาน เพื่อเพิ่มผลผลิตของการทำงาน

ในปี 2012 เคยมีงานวิจัย โดยเก็บข้อมูลจากคนทำงานจำนวนเกือบ 20,000 คน ที่กำลังทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 3 บริษัท พบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารไม่มีคุณประโยชน์ร้อยละ 66 ประสิทธิภาพของงาน น้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารถูกหลักอนามัย จำพวกอาหารธัญพืชไม่ขัดสี ผัก และผลไม้

ดังนั้นก่อนที่คุณจะเลือกหยิบอะไรมารับประทาน ลองมาดูกันก่อนว่า สิ่งที่คุณกำลังลังจะเลือกมานั้น มีผลต่อร่างกายและอารมณ์อย่างไรบ้าง

อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต อย่างพวกข้าวต่างๆ ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นกลูโคส ซึ่งเป็นพลังงานที่สำคัญสำหรับสมอง ทำให้คุณมีความตื่นตัว และมีสมาธิในการทำงาน สามารถแก้ปัญหา มีสมาธิ ช่วยการเรียนรู้และการจดจำ นอกจากนั้น กลูโคสยังช่วยการเชื่อมต่อของระบบประสาท สารเคมีในสมอง และเซลล์สมอง ให้ทำงานดีขึ้น สมองของเราไม่ได้ต้องการแค่กลูโคส แต่ต้องการวิตามิน และแร่ธาตุที่หลากหลายด้วย เพื่อสร้างพลังงาน เชื่อมต่อระบบประสาท และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

อาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร การรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร หรือมีคุณค่าทางสารอาหารที่ไม่ดีพอ เช่น ขนมคบเคี้ยวกรุบกรอบนานาชนิด หรืออาหารแปรรูปที่มีส่วนผสมของไขมันเลว (ไขมันไม่ดี) น้ำตาล เกลือ หรือผงชูรสสูงเกินไป จะทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อความเครียดได้ อาหารที่จะช่วยได้เป็นพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน B วิตามิน C และเซเลเนียม นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า คนที่รับประทานอาหารเหล่านี้จะมีความเครียด และวิตกกัลวลมาก

food-table


สำหรับการรับประทานเพื่อเพิ่มผลผลิตในการทำงานมีขั้นตอนดังนี้

  • เลือกแห่งอาหารที่ให้พลังงานอย่างถูกต้อง เมื่อเราทราบว่า สมองต้องการกลูโคส เราควรเลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพเช่น ข้าว พาสต้า ซีเรียล และผลไม้

  • อาหารจำพวกข้าวขาว ขนมปังขาว ซีเรียล เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และของหวานอื่น ๆ นั้น ให้กลูโคสได้เร็ว ถ้ารู้สึกอ่อนล้าในเวลาทำงาน อาการพวกนี้ช่วยให้เราสามารถทำงานต่อได้

  • อาหารจำพวก ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช ข้าวโอ๊ต มัน โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง ถั่ว และผลไม้ พวกนี้เปลี่ยนเป็นกลูโคสได้ช้ากว่า แต่ก็ทำให้พลังงานในสมองคงที่

  • โปรตีนก็มีความสำคัญ เช่น เนื้อไก่ ทูน่า ไข่ เนื้อไม่ติดมัน เต้าหู้ ถั่ว โยเกิร์ตเข้มข้น ทำให้เรามีพลังงาน และอิ่มทน ไม่หิวง่าย

  • รับประทานให้ถูกเวลา ระดับกลูโคสในเลือดจะต่ำลง หลังจากที่เรารับประทานอาหารไป 2-4 ชั่วโมง ดังนั้น เราอาจจะรับประทานทุก 3 ชั่วโมง เพื่อรักษาระดับพลังงานของร่างกาย ไม่ทำให้รู้สึกหิว และ ไม่ควรรับประทานขนมขบเคี้ยว เพื่อช่วยให้หายหิวในระหว่างที่กำลังทำงาน

  • จัดสรรเวลาสำหรับการรับประทานอาหารเที่ยง และของว่างบ่าย ไว้เสมอ ไม่ว่าตารางงานจะแน่นมากแค่ไหน

  • เตรียมอาหารกลางวัน และของว่างมาจากบ้าน โดยของว่างนั้น ต้องเลือกของที่มีประโยชน์ ไม่ใช่ขนม คุ๊กกี้ หรืออาหารขยะ ของว่างที่ดี เป็นพวกถั่ว ผลไม้อบแห้ง แอปเปิล ชีส ไข่ต้ม และผักสด

  • หากคุณดื่มน้ำผลไม้ ในตอนเช้า ให้ทำเพิ่มเพื่อดื่มในระหว่างเวลารับประทานอาหารว่างด้วย หรืออาจจะเป็นพวกโปรตีนเชคก็ได้

  • ผัก และผลไม้ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมาก นอกจากจะเพิ่มพลังงานให้สมองแล้ว ยังมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของเราด้วย นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเมื่อปี 2015 ระบุว่า การรับประทานผัก ผลไม้ ทำให้เรารู้สึกมีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานมากกว่าคนที่ไม่รับประทานผักผลไม้เลย

  • โอเมก้า 3 ก็มีความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตในการทำงานเช่นกัน โดยจะมีอยู่ในแซลมอน ถั่ว วอลนัท เราสามารถรับประทานร่วมกับสลัดได้

  • ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ควรมีขวดน้ำไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อให้สามารถดื่มได้ตลอดทั้งวัน น้ำมีความสำคัญต่อการทำงานทุกระบบของร่างกายรวมทั้งสมอง

  • การดื่มชา กาแฟ วันละ 1-2 แก้วนั้น สามารถทำได้ เพราะคาเฟอีนก็ช่วยให้มีความตื่นตัว แต่หากดื่มมากเกินไป จะส่งผลต่อการนอนหลับ

สิ่งสำคัญนอกจากการทานอาหารอย่างถูกต้องแล้ว การแบ่งเวลามาออกกำลังกายวันละ 1-2 ชั่วโมง บวกกับการจัดสรรเวลาในการพักผ่อนให้เพียงพอ เหลือเวลาทำกิจกรรมที่ชอบ มีเวลาให้สมองได้ผ่อนคลายบ้าง ก็ช่วยให้สมองของคณทำงานได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกันค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook